คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566

คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566

คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566
คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566
คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566
คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566
คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566 6
คุรุสภาขอเชิญชวนส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล ผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 31 มกราคม 2566 7

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ขอเชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา  และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ส่งผลงานวิจัยเข้ารับการคัดสรรรางวัล “ผลงานวิจัยของคุรุสภา” ประจำปี 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้ใช้กระบวนการวิจัยสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและเป้าหมายการพัฒนา เพื่อเป็นเวทีทางวิชาการสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้าง การใช้ และการเผยแพร่ผลงานวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่มีคุณค่าทางวิชาการและมีคุณภาพสำหรับการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพการศึกษา และการพัฒนาวิชาชีพที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพอย่างยั่งยืน และเพื่อยกย่องผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและคุณค่าทางวิชาการเป็นแบบอย่างของการประยุกต์หรือต่อยอดเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ

ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานวิจัย มี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ได้แก่ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือเอกสารอื่นที่คุรุสภาออกให้ และปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา ทั้งของรัฐและเอกชน หรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานทางการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด และศึกษาธิการภาค และ 2) นิสิต นักศึกษาที่ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ ประจำปีการศึกษา 2565 ในสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา ทั้งของรัฐและเอกชน

ลักษณะของผลงานวิจัยที่ส่งเข้ารับการคัดสรร มีดังนี้ 1) เป็นงานวิจัยที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปแก้ปัญหาการปฏิบัติงานหรือสร้างสรรค์วิชาชีพทางการศึกษา  2) เป็นผลงานวิจัยที่ทำแล้วเสร็จในระหว่าง พ.ศ. 2563 – 2566  3) ไม่เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของการค้นคว้าอิสระ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ หรือรายงานใดๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขอรับปริญญาหรือการผ่านหลักสูตรการอบรมใดๆ  4) ไม่เป็นผลงานวิจัยที่เคยได้รับรางวัลผลงานวิจัยของคุรุสภามาก่อน เว้นแต่เป็นผลงานวิจัยที่ทำขึ้นใหม่ โดยได้มีการต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้จากผลงานวิจัยเดิม  5) ไม่เป็นผลงานวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุนจากคุรุสภา หรือหน่วยงานอื่น  6) ไม่เป็นผลงานวิจัยที่คัดลอกมาจากผลงานวิจัยของผู้อื่นหรือตนเอง หรือคัดลอกแนวคิด ทฤษฎีของผู้อื่น หรือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นที่ปราศจากการอ้างอิง และ 7) กรณีงานวิจัยที่ทำเป็นคณะหรือทำหลายคน ผู้ส่งผลงานวิจัยต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่คุรุสภากำหนด และต้องเป็นผู้วิจัยหลักและมีสัดส่วนการทำวิจัยไม่น้อยกว่า 60% โดยต้องระบุสัดส่วนร้อยละและหัวข้อ หรือหน้าที่ของการทำวิจัยที่สัมพันธ์กับปริมาณสัดส่วน การทำวิจัยของผู้วิจัยหลักและผู้ร่วมวิจัยทุกคนอย่างชัดเจน (รวมกันไม่เกิน 100%)

ประเภทรางวัลผลงานวิจัย แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่ 1) รางวัลผลงานวิจัยระดับภูมิภาค แบ่งเป็น  3 ระดับ ได้แก่ ดีเด่น ดี และชมเชย โดยผลงานวิจัยระดับดีเด่นและระดับดี จะต้องนำเสนอผลงานวิจัยภาคบรรยาย (Oral Presentation) ผ่านระบบ Teleconference Applications เพื่อรับการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดสรรผลงานวิจัยให้เป็น “ผลงานระดับประเทศ” ต่อไป และ 2) รางวัลผลงานวิจัยระดับประเทศ แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ดีเด่น ดี และชมเชย การตัดสินของคณะกรรมการไม่จำกัดจำนวนผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัล ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามเกณฑ์คุณภาพที่คุรุสภากำหนด

เกณฑ์การประเมินคุณภาพ “ผลงานวิจัยระดับภูมิภาค” จะพิจารณาจากองค์ประกอบคุณภาพผลงานวิจัย จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านปัญหา/วัตถุประสงค์วิจัย 2) ด้านระเบียบวิธีวิจัย 3) คุณค่าและประโยชน์ของงานวิจัย และ 4) คุณภาพของรายงานวิจัย โดยแต่ละด้านจะต้องผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป ส่วน “ผลงานวิจัยระดับประเทศ” จะพิจารณาจากคะแนนที่ได้จากการประเมิน 2 ส่วน ได้แก่ 1) จากการประเมินเล่มผลงานวิจัย จำนวน 70% และ 2) จากการนำเสนอผลงานวิจัยภาคบรรยาย (Oral Presentation) จำนวน 30% โดยพิจารณาจากองค์ประกอบคุณภาพการนำเสนอผลงานวิจัย จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ 1) การนำเสนอผลงานวิจัย 2) เนื้อหาสาระในการนำเสนอผลงานวิจัย 3) สื่อและการใช้สื่อประกอบการนำเสนอผลงานวิจัย  และ 4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดต้องส่งผลงานทั้งทางออนไลน์เท่านั้น โดยลงทะเบียนส่งผลงานในระบบ KSP Self – service ผ่านทาง https://selfservice.ksp.or.th/ ที่เมนู ขอรับรางวัลผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาวิชาชีพ และต้องส่งไฟล์เอกสารในรูปแบบ PDF  สามารถส่งผลงานวิจัยได้ระหว่างวันที่ 5 – 31  มกราคม 2566 สามารถตรวจสอบรายชื่อผลงานที่ส่งเข้าร่วมคัดสรรได้ ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2566 และประกาศผลการคัดสรรผลงานวิจัย “ระดับภูมิภาค” ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 และประกาศผลการคัดสรรผลงานวิจัย “ระดับประเทศ” ภายในวันที่ 29 กันยายน 2566 ผ่านทางเว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th

ส่งผลงานในระบบ KSP Self – service ผ่านทาง https://selfservice.ksp.or.th/ ที่เมนู ขอรับรางวัลผลงานวิจัยเพื่อ พัฒนาวิชาชีพ

ดูประกาศเพิ่มเติมได้ที https://www.ksp.or.th/ksp2018/2022/12/41630/

ดูรายละเอียดประกาศการคัดสรรผลงานฯ ผ่านทางเว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 0 2280 6366 หรือผ่านทางไลน์แอดที่ https://lin.ee/k11sra2

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่