ศธ. เผยโควิดกระทบบุคลากร พนักงาน-ครูติดเชื้อสะสมกว่า 5 พันราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารครั้งที่ 7/2564 ณ ห้องประชุมจันทรเกษม อาคารราชวัลลภ ผ่านระบบออนไลน์ (zoom meeting) เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 ร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด และหน่วยงานในสังกัด คือ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
โดยช่วงหนึ่งของการประชุม ปลัด ศธ. ในฐานะประธานกรรมการบริหารศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ณ วันที่ 12 ก.ค. 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ของข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด เพิ่มขึ้น 32 ราย โดยตัวเลขสะสมแบ่งเป็น อยู่ระหว่างการรักษา 3,401 ราย หายป่วยแล้ว 2,290 ราย รวมจำนวนผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อสะสม 5,698 ราย และเสียชีวิตสะสม 7 ราย
ในส่วนของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 12 ก.ค. 2564 ฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้วจำนวน 306,675 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 98,995 ราย และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 459,547 ราย
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในขณะนี้ สิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงานและสถานศึกษา ต้องให้ความร่วมมือคือ ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค) เช่น ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเข้มงวด ให้ทำงานจากบ้าน (work from home) ขั้นสูงสุด, งดการประชุมอบรมสัมมนาประเภทต่าง ๆ ไว้ก่อน หากจำเป็นให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน, การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขจังหวัดอย่างเคร่งครัด เป็นต้น”
นายธนู ขวัญเดช รองปลัด ศธ. กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการวางแผนอัตรากำลังบุคลากรในทุกหน่วยงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผลกระทบกระบวนการสรรหาอัตรากำลังของข้าราชการและผู้บริหารทุกระดับ
“ขอให้ศึกษาธิการจังหวัดสื่อสารสร้างความเข้าใจให้บุคลากรในสังกัดได้รับทราบด้วย นอกจากนี้ ในเรื่องการดำเนินคดีทางวินัย จะมีเรื่องของอายุความที่จะหมดลงด้วย จึงขอให้พิจารณาดำเนินการในกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพราะจะมีผลในเรื่องการรับผิด”
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น
– ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรปราการ ได้รายงานการช่วยเหลือครู บุคลากรและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานสารเคมี มีโรงเรียนในสังกัดได้รับผลกระทบ 7 โรงเรียน คือ สังกัด สพป.สมุทรปราการ เขต 2 จำนวน 5 โรงเรียน และ สพม.สมุทรปราการ 2 โรงเรียน โดยผู้ตรวจราชการฯ และโฆษก ศธ. (เกศทิพย์ ศุภวานิช) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมมอบสิ่งของจำนวนหนึ่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำนักงานศึกษาธิการได้กระจายสิ่งของไปช่วยผู้ประสบภัยแล้ว
– ศึกษาธิการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รายงานการฉีดวัคซีนในจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนแก่ครูในสังกัด 21,523 ราย ให้ได้ร้อยละ 70 เพื่อทันเปิดเรียนแบบ On-Site ครบทุกแห่งในวันที่ 29 ก.ค.นี้
ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ วันที่ 13 กรกฎาคม 2564