นายกฯ ชี้ศึกษายกกำลังสองน้อยไป แนะโรงเรียนสร้างเด็กวิเคราะห์มากว่าท่องจำ เปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงความคิด แยกแยะมากกว่าที่จะยัดเยียดความจำอย่างเดียว
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานการศึกษายกกำลังสอง หัวข้อ “จากรัฐสู่การศึกษาร่วมกับเอกชน” ยกกำลังสองการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ ว่า การศึกษาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ต้องมีทางเลือกใหม่ เพื่อเปลี่ยนหน้าการศึกษาไทยให้ได้ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้มีการแก้ปัญหาการศึกษาโดยบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ดังนั้น อยากให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยพัฒนาการศึกษา ต้องร่วมหาบทบาทของเด็กให้เจอ และกำหนดตัวชี้วัด การประเมินตั้งแต่ประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษา ขณะที่ครูต้องให้ความสนใจในเรื่องการศึกษา ผลการสอนควรเป็นอย่างไร เพราะการสอนต้องมีทั้งในห้องเรียนและระบบดิจิทัล ต้องมีการเตรียมครูและนักเรียน รวมถึงต้องมีการเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาเข้าไปฝึกงานในสถานประกอบการด้วย
“โลกเปลี่ยนไปจากเดิม การศึกษายกกำลังสองน้อยไป อยากให้ยกกำลังห้าดีกว่า เพราะเรื่องการศึกษาต้องทำให้เร็ว ต้องไปดูว่าเด็กต้องการอะไร อยากได้อะไร เช่น ลดการบ้าน ลดการสอบต่างๆ ไม่ใช่ว่าครูสอนทุกวิชาแล้วให้การบ้านทุกวิชา ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ปกครอง”
ทั้งนี้ นายกฯ ให้นโยบายว่า เห็นใจเด็กนักเรียนในปัจจุบัน ที่ต้องเรียนเยอะ และข้อสอบยาก ซึ่งรูปแบบการเรียนแบบนี้อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงอยากให้แต่ละโรงเรียนพิจารณาเรื่องลดเวลาเรียนในห้องเรียน และเปิดพื้นที่ให้เด็กหาความรู้ทั้งในห้องสมุด หรือพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์จริง และนำเรื่องราวที่ค้นพบมาถกเถียงให้เกิดกระบวนการเรียนรู้มากกว่าการท่องจำรวมถึงข้อสอบการคัดเลือกเข้าสถานศึกษาต่างๆ ที่ยังเน้นการท่องจำอยู่ นายกฯจึงย้ำให้มีการคิดวิเคราะห์ เปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงความคิด แยกแยะมากกว่าที่จะยัดเยียดความจำอย่างเดียว