ผลการประชุม ก.ค.ศ. เห็นชอบ หลักสูตรการพัฒนา ผอ.เขตและรอง ผอ.เขต ก่อนการแต่งตั้ง และประเด็นอื่นๆ
ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ ก.ค.ศ. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2563 ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบ หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งเดิม ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. (ว 2/2562) ไว้ แต่หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวนั้น ยังไม่ได้ครอบคลุมกำหนดองค์ความรู้ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย การใช้ภาษาอังกฤษ ทักษะการใช้ดิจิทัล และการใช้ภาษาไทย ไว้ในหลักสูตร
ก.ค.ศ. ได้พิจารณาว่า ในการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะที่เหมาะสมกับการบรรจุและแต่งตั้ง และการเลื่อนวิทยฐานะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง จึงเห็นควรเพิ่มเติมหลักสูตรการพัฒนาให้มีองค์ประกอบเกี่ยวกับความรู้ ทักษะ และความต้องการที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และเห็นควรน้อมนำพระบรมราโชบาย ในหลวงรัชกาลที่ 10 ด้านการศึกษา 4 ด้าน ได้แก่ 1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม 3. มีงานทำ-อาชีพ 4. เป็นพลเมืองที่ดี มากำหนดเพิ่มเติมไว้ในหลักสูตรในการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 2/2562 ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพเหมาะสมในการที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ต่อไป
2. อนุมัติ การกำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีลักษณะพิเศษในการปฏิบัติปฏิบัติงาน (พื้นที่สูง) เพื่อประโยชน์ในการจัดการการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 10 อัตรา ดังนี้
อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 6 อัตรา ได้แก่
– ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 อัตรา
– ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 อัตรา
– ตำแหน่งครู จำนวน 4 อัตรา
อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) จำนวน 4 อัตรา ดังนี้
– ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา จำนวน 1 อัตรา ระดับชำนาญการ/ชำนาญการพิเศษ
– ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา จำนวน 1 อัตรา ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ
– ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป จำนวน 1 อัตรา ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ
– ตำแหน่งบรรณารักษ์ จำนวน 1 อัตรา ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ
โดยระบุเงื่อนไขว่า เมื่อสำนักงาน กศน. ได้รับเงินประจำอัตราเมื่อใด ให้ขออนุมัติกำหนดเลขที่ตำแหน่งตามกรอบอัตรากำลังที่ได้รับอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง
3. เห็นชอบหลักการของ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 และเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังและคุณลักษณะของบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จะต้องได้รับการคัดสรรเป็นกรณีพิเศษ โดยต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษา สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ก.ค.ศ. จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สถานศึกษา โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยขึ้นโดยเฉพาะ
เพื่อให้ได้ผู้ปฏิบัติงานทั้งในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและตำแหน่งครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการกำหนดให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาโดยการย้าย การคัดเลือก หรือการสอบแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหาร สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ว 6/2563) โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการปรับรายละเอียดและเนื้อหาสาระของร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าว ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม ก่อนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขอบคุณที่มา : อีทีวีแม็ค เวทีสาธารณะเพื่อการศึกษา