รมว.ศธ.ชูศรีสะเกษโมเดล ต้นแบบพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พร้อมดึงพลังจากทุกภาคส่วน พัฒนาการศึกษาในพื้นที่ให้เต็มศักยภาพ รมว.ศธ.ชูจ.ศรีสะเกษ ต้นแบบพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พร้อมดึงพลังจากทุกภาคส่วน พัฒนาการศึกษาในพื้นที่ให้เต็มศักยภาพ เดินหน้าปลดล็อกข้อจำกัด เพื่อสร้างคุณภาพการศึกษา
เมื่อวันที่ 25 ก.ย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “TEP FORUM SISAKET: พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยพลังคนศรีสะเกษ” พร้อมทั้งร่วมเวทีล้อมวงสนทนากับภาคีการเรียนรู้ศรีสะเกษ ในหัวข้อ “จะร่วมกันเปลี่ยนแปลงการศึกษาศรีสะเกษให้ทันโลกได้อย่างไร” โดยมีนายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับและเข้าร่วมงาน ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
โดยนายณัฏฐพล กล่าวว่า การจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นการจุดประกายให้สถานศึกษาเริ่มปรับตัว ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้ทันยุคทันสมัย ตามบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วโดยจังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ด้วยการมีส่วนร่วมในการทำงานของทุกภาคส่วน
นอกจากนี้ การจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีกฎหมายและพระราชบัญญัติที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้สถานศึกษาสามารถดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ทั้งในด้านงบประมาณ หลักสูตร และการพัฒนาครู เป็นต้น
โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวทางในการปลดล็อกกฎระเบียบต่างๆ ให้มีความทันสมัยและไม่เป็นข้อจำกัดในการพัฒนาการศึกษา ในขณะเดียวกัน ครูก็มีความเข้าใจและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตนเอง ให้มีทักษะสอดคล้องกับศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้เราทุกคนได้เห็นความเปราะบางของการศึกษา ที่อาศัยการเรียนในห้องเรียนเป็นส่วนใหญ่ แต่ครูก็มีความตื่นตัวและพัฒนาตนเองให้มีทักษะด้านดิจิทัลมากขึ้น ส่วนนักเรียนก็มีความพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน
“ผมขอฝากให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา บูรณาการการทำงานร่วมกัน สิ่งสำคัญ คือ การวางรากฐานและช่วยกันพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ให้เกิดผลสำเร็จ เพราะการบริหารจัดการการศึกษาอยู่ในมือของพวกเราทุกคน ทั้งนี้จังหวัดศรีสะเกษได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 8 จังหวัด ในการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ หากทุกภาคส่วนในจังหวัดร่วมมือร่วมใจกัน ก็จะสามารถพัฒนาจังหวัดให้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยได้ การรวมพลังการศึกษาระหว่างสายสามัญ อาชีวศึกษา การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการอุดมศึกษา ความเชื่อมโยงของทุกภาคส่วน จึงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ในการเสวนา นายณัฏฐพล ยืนยันที่จะปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ศธ. โดยเฉพาะกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนการศึกษา เช่น ยกเลิกข้อจำกัดประเภทโรงเรียนที่ไม่อนุญาตให้นักศึกษาฝึกงานเป็นครูผู้ช่วยสอน เป็นต้น รวมถึงรับเรื่องหาแนวทางในการพิจารณาผลงานครู เพื่อการปรับวิทยฐานะ นอกจากนี้ นายณัฏฐพล ยืนยันที่จะผลักดันการศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพในการระบบการศึกษาทั้งหมด โดยพิจารณาศรีสะเกษโมเดลให้เป็นต้นแบบการศึกษาในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
“ส่วนของภาครัฐ ผมเป็นคนรับผิดชอบที่จะไปดำเนินการ ซึ่งทางกระทรวงต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน และภาคสังคมอย่างเข้มแข็งเช่นกัน” นายณัฏฐพล กล่าว
ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ การพัฒนาสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ สถานศึกษานำร่อง รุ่นที่ 1 จำนวน 49 โรงเรียน และรุ่นที่ 2 เพิ่มเติม 69 โรงเรียน และมีแผนดำเนินการให้ครบ 400 โรงเรียนในปี 2465
ขอบคุณที่มาและอ่านต่อที่ : เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 25 กันยายน 2563 | Facebook ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.