“ตรีนุช”เตรียมพร้อมรับมือเปิดเทอม 1/2565 เข้มมาตรการโควิด-19 ปูพรมฉีดวัคซีนให้นักเรียน นักศึกษา
เสมา 1 สั่งสถานศึกษาในสังกัด ศธ. เตรียมพร้อมรับมือเปิดเทอม 1/2565 เข้มมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เน้นจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-Site ตรวจ ATK ไม่เป็นเงื่อนไขในการเข้าเรียน ประสาน สธ.ปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้นักเรียน นักศึกษา
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในเดือนพฤษภาคมนี้ ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-Site หรือจัดการเรียนการสอนที่สถานศึกษาให้มากที่สุด โดยไม่นำเรื่องการฉีดวัคซีนมาเป็นเงื่อนไขในการมาเรียนของนักเรียน
ขณะเดียวกัน ศธ.จะรณรงค์ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ไปจนถึงนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ให้มากที่สุด และสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความมั่นใจว่าสถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
“สำหรับการดูแลนักเรียน เบื้องต้นได้หารือกันว่าอาจจะต้องแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มาโรงเรียนได้ ต้องมีการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และกลุ่มที่ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ทางโรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียนแต่ละคนให้ เช่น การเรียนการสอนแบบ Online ผ่านอินเทอร์เน็ต และ On-Hand สำหรับนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ โดยการนำหนังสือ แบบฝึกหัด ใบงาน ไปเรียนรู้ที่บ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องไปพิจารณาแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ของตนเอง เพื่อคุณภาพในการจัดการศึกษา และความปลอดภัยของผู้เรียนทุกคน” รมว.ศธ.กล่าว
สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 พบว่า
- ครูและบุคลากรสังกัด ศธ. ทั้งในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน จำนวน 685,528 คน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วกว่า 99.99 % มีเพียง 15,474 คน ที่ไม่ได้รับวัคซีน ในจำนวนนี้มีถึง 97% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ถึงเข็มที่ 4 แล้ว
- นักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป หรือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึง ปวส.ทั้งหมดจำนวน 5,171,840 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 4,428,331 คน คิดเป็น 85.62 % ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 แล้ว จำนวน 4,232,281 คน คิดเป็น 95.57% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว จำนวน 3,399,786 คน คิดเป็น 76.77% ส่วนนักเรียนช่วงอายุ 5 ปี ถึงอายุ 12 ปี (ไม่เกิน 11 ปี 11 เดือน 29 วัน) ทั้งหมดจำนวน 5,263,064 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,346,064 คน คิดเป็น 63.58 % ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 แล้วจำนวน 1,487,003 คน คิดเป็น 44.44% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วจำนวน 46,162 คน คิดเป็น 1.38% ซึ่งในระหว่างปิดภาคเรียนนี้ ศธ.จะประสานกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการฉีดวัคซีนให้นักเรียนได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงมากที่สุด
ทั้งนี้ มาตรการความปลอดภัย 6-6-7 ที่สถานศึกษาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ มาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ประกอบด้วย ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลาง กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ และกักกันตัวเอง และ แนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา ได้แก่ การประเมิน TSC+ รายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง, การทำ Small Bubble สำหรับกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย, การจัดอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ, การอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ, การทำ School Isolation โดยมีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม, การทำ Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียน และการจัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา
ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ ศธ360 องศา