ด่วนที่สุด!! แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หนังสือ ก.ค.ศ ว32/2565
ด้วยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เป็นต้นไป โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้บัญญัติให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ทำหน้าที่การบริหารงานบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนดไว้จากเดิมที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ กศจ. และบัญญัติให้ปรับเปลี่ยนผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ไปเป็นหน้าที่และอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี
สำนักงาน ก.ค.ศ. ขอเรียนว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนไปในแนวทางเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ จึงกำหนดแนวปฏิบัติการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
แนวปฏิบัติการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา
ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕
(ส่งพร้อมหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0๒๐๖.๘/ว ๓๒ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕)
เพื่อให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา เข็นไปโดยสอดคล้องกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ เกิดความชัดเจนและปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ จึงกำหนดแนวปฏิบัติ ดังนี้
๑. การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งของ กศจ. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลซึ่งกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนดไว้ให้เป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ที่ กศจ. จะดำเนินการได้ตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ ต้องเป็นกรณีที่ กศจ. ได้พิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลเรื่องนั้นไว้แล้วแต่ยังไม่เสร็จรวมถึงกรณีเรื่องการบริหารงานบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
๑.๑ กรณีที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. ได้รับเรื่องการบริหารงานบุคคลนั้น ไว้ก่อนวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ได้แก่
๑.๑.๑ กรณียื่นหรือส่งเรื่องการบริหารงานบุคคลที่สำนักงานศึกษาจังหวัด
๑.๑.๒ กรณีส่งเรื่องการบริหารงานบุคคลทางไปรษณีย์ ให้ถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางออกใบรับฝากเป็นหลักฐานฝากส่ง หรือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางประทับตรารับที่ซอง เป็นวันที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดได้รับเรื่องไว้แล้ว
๑.๒ กรณีที่มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการฯ กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถยื่นเรื่องการบริหารงานบุคคลนั้น ต่อ กศจ. โดยผ่านผู้บังคับบัญชา เมื่อมีการยื่นเรื่องดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาก่อนวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ แล้ว เช่น การยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อผู้บังคับบัญชา ตามข้อ ๙ ของกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
๒. ผู้มีอำนาจออกคำสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เนืองจากมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ขเพิมเติมคำสังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้ยกเลิกอำนาจการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ของศึกษาธิการจังหวัด ตามข้อ ๑ต (เดิม) ไปเป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี ดังนั้น ในการออกคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งและคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) เป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขดพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี ดังนี้
๒.๑ การใช้อำนาจของผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดให้การออกคำสั่งซึ่งมิใช่เป็นการสั่งตามมติองค์คณะบุคคลตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ รวมถึงเรื่องที่ศึกษาธิการจังหวัดในฐานะผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓จะต้องสั่งหรือดำเนินการออกคำสั่งอยู่ก่อนวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ แต่ยังไม่ได้สั่งหรือออกคำสั่งด้วย
๒.๒ การใช้อำนาจของผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดให้การออกคำสั่งซึ่งเป็นการสั่งการตามมติองค์คณะบุคคลเป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี ดังนี้
๒.๒.๑ กรณีออกคำสั่งตามมติ กศจ. ซึ่งมีมติตั้งแต่ก่อนวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕แต่ศึกษาธิการจังหวัดในฐานะผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ ในขณะนั้นยังมิได้ออกคำสั่งตามมติดังกล่าว และกรณีออกคำสั่งตามมติ กศจ. ซึ่งมีมติเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ในระหว่างที่ยังไม่มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
๒.๒.๒ กรณีออกคำสั่งตามมติ ก.ค.ศ. ซึ่งมีมติตั้งแต่ก่อนวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕แต่ศึกษาธิการจังหวัดในฐานะผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ ในขณะนั้นยังมิได้ออกคำสั่งตามมติดังกล่าวและกรณีออกคำสั่งตามมติ ก.ค.ศ. ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
๒.๒.๓ กรณีออกคำสั่งตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เมื่อมี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ตัวอย่างแนบท้ายแนวปฏิบัติการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕
ขอบคุณที่มา : สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา – สำนักงาน ก.ค.ศ. (otepc.go.th)