กระทรวงการคลังเตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่ ปลายมกราคม 2564
กระทรวงการคลังเตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่ ปลายมกราคม 2564

กระทรวงการคลังเตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่ ปลายมกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ปี 2564 กระทรวงการคลังจะเปิดลงทะเบียน กำลังพิจารณาเงื่อนไข ที่จะใช้ในการอ้างอิงรายได้ สวัสดิการที่เคยได้รับจะเหมือนเดิม ส่วนจะมีเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ในขั้นพิจารณารายละเอียด มีมาตรการประตุ้นเศรษฐกิจ

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “ตอนนี้คลังมีโครงการของรัฐบาลหลาย ๆ เรื่องที่ต้องดูแล ซึ่งการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรอบใหม่ จะตามมาในช่วงต้นปี 2564 แต่ตอนนี้ก็ต้องมีการประชุม และสรุปเรื่องหลักเกณฑ์อีกครั้ง โดยในขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมก่อน ซึ่งจะหารือกันเพื่อได้ข้อสรุปอีกครั้ง หลักเกณฑ์คร่าว ๆ คือ จะดูเรื่องรายได้เป็นรายครอบครัว” นางสาวกุลยากล่าว

ก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ระบุว่า ในช่วงต้นปี 2564 กระทรวงการคลังจะเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ โดยเงื่อนไขที่จะลงทะเบียนจะอิงรายได้ครัวเรือน แทนรายได้ส่วนบุคคลที่กำหนดต้องมีไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี พร้อมพิจารณาการขยายสวัสดิการที่จะให้เพิ่มเติม

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การลงทะเบียนรอบใหม่ เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2564 นี้ ซึ่งแม้ว่าจะยังเป็นช่วงที่ผู้ถือบัตรเดิมยังได้รับสิทธิเติมเงิน 500 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2564 ก็ตาม เนื่องจากการลงทะเบียนต้องทำไว้ก่อน เพื่อให้มีความพร้อมต่อเนื่อง

โดยการกำหนดเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับสิทธิ จะพิจารณารายได้เป็นรายครัวเรือน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการน้อยลงกว่า 14.6 ล้านคน โดยหากได้ข้อสรุปแล้ว จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการต่อไป

“การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่นี้ ไม่เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่รัฐบาลเพิ่มเงิน 500 บาท ให้อีก 3 เดือน จนถึงเดือน มี.ค. 2564 แต่เป็นสิ่งที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการในต้นปีหน้า เพื่อเป็นการทบทวนสิทธิคนที่มีบัตรสวัสดิการอยู่แล้ว และคนที่จะเข้ามาสมัครใหม่ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการเหลืออยู่13.8 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมด 14.6 ล้านคน เป็นผลมาจากมีบางส่วนเสียชีวิต เฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นราย” แหล่งข่าวกล่าว

ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ 4 มกราคม 2564 | ประชาชาติธุรกิจ 2 มกราคม 2564

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่