ม.มหาสารคาม พัฒนา Application ตรวจสอบชนิดเห็ดพิษและเห็ดกินได้พร้อมใช้แล้ว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม lและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามความร่วมมือ “การจัดทำฐานข้อมูลเห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้ในประเทศไทยและการพัฒนา Application Mushroom Image Matching”

โดยได้รวบรวมภาพถ่ายของเห็ดทั้งเห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้ กลุ่มละ 1,000 ภาพ เก็บไว้ในฐานข้อมูลเพื่อใช้ประมวลผลด้วยโปรแกรมจดจำรูปภาพและแสดงผลชนิดของเห็ดด้วยชื่อและร้อยละของความถูกต้อง ซึ่งในวันนี้ถือว่าพร้อมแล้วในการเปิดตัว “Application Mushroom Image Matching”
รองศาสตราจารย์ขวัญเรือน นาคสุวรรณ์กุล กล่าวว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดร.สิทธิพร ปานเม่นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการ ศูนย์พิษวิทยา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ นางสาวเกษร บุญยรักษ์โยธิน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี และตนเอง ได้ลงนามความร่วมมือ ร่วมกันพัฒนาโปรแกรม “Application Mushroom Image Matching” จนสำเร็จและพร้อมใช้งาน ในวันนี้ ทั้งนี้มีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากเห็ดพิษ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2562 จำนวนมากถึง 1,176 ราย และมีรายงานการเสียชีวิต 3 ราย ตัวอย่างเห็ดพิษจากหลากหลายแห่งถูกส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ ยะลา ชัยภูมิ อุบลราชธานี อำนาจเจริญและสกลนคร เห็ดที่มีรายงานการเกิดเหตุ ได้แก่ เห็ดหมวกจีน เห็ดถ่านเลือด เห็ดระโงกพิษและเห็ดคันร่ม ซึ่งเห็ดพิษเหล่านี้มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่คล้ายกับเห็ดรับประทานได้ เช่น เห็ดหมวกจีนคล้ายกับเห็ดปลวก (เห็ดโคน) เห็ดถ่านเลือดคล้ายกับเห็ดถ่านใหญ่ เห็ดระงากพิษคล้ายกับเห็ดระโงกขาวที่กินได้ เห็ดคันร่มพิษคล้ายกับเห็ดปลวกไก่น้อย เห็ดหัวกรวดครีบเขียวพิษคล้ายกับเห็ดนกยูงกินได้ ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดและเก็บมารับประทานจึงได้รับสารพิษเข้าไป
สำหรับการใช้งานโปรแกรมดังกล่าว ต้องทำการดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งไว้บนโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนแบบ Android เท่านั้น โดยเข้าถึง Application ได้ 2 ช่องทาง คือ 1.เลือกจาก Play store ค้นหาคำว่า “คัดแยกเห็ดไทย” และ 2. สแกน QR Code จากนั้นทำการลงทะเบียนและใช้งานโปรแกรมด้วยการเปิดกล้องและสแกนดอกเห็ดที่ต้องการทราบชนิด โปรแกรมจะเริ่มประมวลผลแบบ real time และจะหยุดเมื่อความถูกต้องของชนิดเท่ากับร้อยละ 95 หรือเราสามารถกดปุ่มเพื่อหยุดได้ และนอกจากนี้โปรแกรมนี้ยังสามารถตรวจสอบชนิดของเห็ดจากภาพถ่ายที่เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือได้เช่นกัน



ชมรายการผ่านยูทูปได้ที่นี่ : https://youtu.be/H3LQ-apiwME
ขอบคุณที่มาของข่าว : รายการข่าวนอกลู่