เปิดแล้วยื่นภาษีบุคคลปี 2563 ออนไลน์ ยื่นได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ยื่นภาษีปี 64
บุคคลที่มีรายได้ทุกคน ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งแม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็ต้องยื่นแบบภาษีประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. เพื่อแสดงรายได้สะสมในช่วงปีที่ผ่านมา *** ล่าสุดขยายเวลายื่นผ่านออนไลน์ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564
ถ้าอยากรู้ว่าเราจะต้องเสียภาษีเท่าไร ให้คำนวณรายได้สุทธิของตัวเองก่อนจากสูตร“เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ”ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเหมาจ่าย 50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เมื่อได้จำนวนเงินได้สุทธิแล้วจึงมาเทียบดูอัตราภาษีที่ต้องเสีย ซึ่งปีนี้กรมสรรพากรยังคงใช้อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหมือนกับปี 2560 นั่นก็คือการเก็บภาษีตามขั้นบันได ตั้งแต่ 5-35% มีวิธีการคำนวณคือ “ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี” สามารถดูอัตราภาษีได้จากตารางด้านล่างเลยครับ
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา | |
---|---|
เงินได้สุทธิต่อปี | อัตราภาษีเงินได้ |
0-150,000 บาท | ได้รับการยกเว้นภาษี |
150,001-300,000 บาท | 5% |
300,001 – 500,000 บาท | 10% |
500,001-750,000 บาท | 15% |
750,001-1,000,000 บาท | 20% |
1,000,001 – 2,000,000 บาท | 25% |
2,000,001 – 5,000,000 บาท | 30% |
5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% |
ค่าลดหย่อนภาษี 5 กลุ่มที่คนจ่ายภาษีต้องรู้
กลุ่มที่ 1 ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว | จำนวน | |
---|---|---|
1 | ค่าลดหย่อนส่วนตัวสำหรับคนมีเงินได้ทุกคน | 60,000 บาท |
2 | ค่าลดหย่อนคู่สมรส *สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้แต่ยื่นแบบแสดงรายการคำนวณภาษีพร้อมกัน | 60,000 บาท |
3 | ค่าลดหย่อนบุตร ต่อ 1 คน *หากเป็นบุตรโดยกฎหมายสามารถนำมาหักได้ไม่จำกัดจำนวนคน *ในกรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม หรือมีทั้งบุตรบุญธรรมและบุตรโดยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่เกิน 3 คน ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันตามนโยบายรัฐฯ ส่งเสริมให้เพิ่มประชากร คู่สมรสที่มีลูกคนที่ 2 ขึ้นไป รับสิทธิ์เพิ่มอีก 30,000 บาท ต่อคน รวมเป็น 60,000 บาท | 30,000 บาท |
4 | ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร *หากตั้งท้องปีนี้ แต่กำหนดคลอดปีหน้า ให้ลดหย่อนตามปีที่ใช้สิทธิ แต่รวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท | ไม่เกินปีละ 60,000 บาท |
5 | ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูพ่อแม่ และคู่สมรสอายุ 60 ปีขึ้นไป *สูงสุดไม่เกิน 4 คน โดยสิทธิในการเลี้ยงดูจะใช้ได้ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องระบุลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนเป็นคนเลี้ยงดู | คนละ 30,000 บาท |
6 | ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูผู้พิการหรือคนทุพพลภาพ *ในกรณีที่คนพิการหรือคนทุพพลภาพมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าร่างกายบกพร่อง | คนละ 60,000 บาท |
กลุ่มที่ 2 ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน | จำนวน | |
---|---|---|
1 | ประกันสังคม | ไม่เกิน 9,000 บาท |
2 | เบี้ยประกันชีวิต | ไม่เกิน 100,000 บาท |
3 | เบี้ยประกันสุขภาพ | ไม่เกิน 15,000 บาท *และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
4 | เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ *ต้องเป็นบุตรตามกฎหมายเท่านั้น สิทธิประกันที่นำมาลดหย่อนต้องเป็นความคุ้มครองด้านใดด้านหนึ่งใน 4 กลุ่ม คือ ค่ารักษาจากการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และประกันคุ้มครองการพยาบาลสำหรับการเจ็บป่วยระยะยาว | ไม่เกิน 15,000 บาท |
5 | เบี้ยประกันชีวิตคู่สมรส *กรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ | ไม่เกิน 10,000 บาท |
6 | เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ *ในกรณีที่มีส่วนที่เกิน 10,000 แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษี) | ไม่เกิน 10,000 บาท |
7 | เงินสะสมกองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน | ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 500,000 บาท |
8 | เงินสะสมจากกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) | ไม่เกิน 13,200 บาท |
9 | เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ *โดยมีเงื่อนไขคือเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท | ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท |
10 | กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) *เงื่อนไขคือต้องลงทุนต่อเนื่องถึงอายุ 55 ปี | ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท |
กลุ่มที่ 3 ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์
ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์ | จำนวน | |
---|---|---|
1 | ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย *เป็นดอกเบี้ยจากเงินกู้ซื้อบ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัย หากมีการกู้อยู่อาศัยมากกว่า 1 แห่ง สามารถใช้ลดหย่อนรวมกันได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท และในกรณีที่กู้ร่วมกันหลายคน สามารถแบ่งดอกเบี้ยคนละเท่า ๆ กัน โดยรวมแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน | ไม่เกิน 100,000 บาท |
2 | ซื้อบ้านหลังแรก ปี พ.ศ. 2562 *ถ้าบ้านหรือคอนโดนั้นราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท | ไม่เกิน 200,000 บาท |
กลุ่มที่ 4 ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค
ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค | จำนวน | |
---|---|---|
1 | เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา สนับสนุนการกีฬา และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ | หักได้ 2 เท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน |
2 | เงินบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ | หักได้ 2 เท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน |
3 | กลุ่มเงินบริจาคทั่วไป เช่น บริจาคเงินเพื่อสาธารณกุศล | ได้จำนวนตามที่บริจาคจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และเงินบริจาค 2 กลุ่มแรก |
4 | เงินบริจาคให้พรรคการเมือง | สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท |
กลุ่มที่ 5 ค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
- มีด้วยกัน 1 สิทธิ ได้แก่
- มาตรการ “ช้อปดีมีคืน”
จำนวนลดหย่อน: ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อ
เงื่อนไข:- สำหรับการซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563
- สินค้าที่ซื้อต้องเป็นดังนี้
- สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปเพื่อเป็นหลักฐานได้
- หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมถึง eBook (ยกเว้นนิตยสารและหนังสือพิมพ์) จากร้านที่เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบได้
- สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และมีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ
- สินค้าที่ไม่เข้าร่วม ได้แก่ เครื่องดื่นที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ค่าที่พักและ ค่าตั๋วเครื่องบิน
- มาตรการ “ช้อปดีมีคืน”
ยื่นอย่างไร ยื่นที่ไหน ยื่นเมื่อไร?
สำหรับใครที่มีรายได้จากเงินเดือนและโบนัส โดยไม่มีรายได้ประเภทอื่น ให้เตรียมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) พร้อมเอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ให้รีบยื่นแสดงภาษีให้เร็วที่สุด ซึ่งเปิดให้ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 – 8 เมษายน 2564 โดยยื่นได้หลายช่องทาง ได้แก่
- ยื่นแบบแสดงภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพากร
- ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/ ซึ่งจะสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2564
- ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน
เมื่อได้ข้อมูลอัปเดตการยื่นภาษีในปีนี้ไปแล้ว หวังว่าจะทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเรื่องของภาษี หลักการคำนวณ และการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนและใช้สิทธิได้คุ้มค่า จ่ายภาษีในอัตราที่ถูกลงและอาจได้รับเงินคืนอีกด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนอย่าลืมศึกษาและใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของตัวเองกันให้เต็มที่นะครับ
ขอบคุณที่มา : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/tax-2563