15 ความเสี่ยงโลกออนไลน์ของคนไทย – ผลวิชัยชี้ใช้ “คำหยาบ-รุนแรง” สูงสุด
รศ.ดร.พนม คลี่ฉายา หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านความรอบรู้ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อ หรือ DIRU คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลการวิจัยเรื่อง “การเพิ่มความสามารถในความรอบรู้ ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันที่มีต่อความผูกพันและความเสี่ยงจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของประชาชน” ว่า
ได้สำรวจโดยเริ่มจากการสัมภาษณ์ประชาชน 4 ช่วงวัย ได้แก่ วัยรุ่นอายุ 15-22 ปี, วัยทำงานช่วงต้นอายุ 23-39 ปี, ผู้ใหญ่วัยทำงาน ช่วงอายุ 40-59 ปี, และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พบความเสี่ยงจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ 5 ประเภท ได้แก่ เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ไลน์,ทวิตเตอร์ และ ยูทูบ 15 เรื่อง จากนั้นได้นำ 15 เรื่องดังกล่าวไปทำการสำรวจกับกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 2,580 คน พบว่า โอกาสที่คนไทยจะพบ 15 ความเสี่ยง ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง ภาพคลิป คำพูดที่มีความรุนแรง โดยพบภาพ คลิป ถ้อยคำหยาบคาย
อันดับที่ 2 เรื่องโฆษณาสินค้าที่ไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัย สินค้าผิดกฎหมายอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
อันดับที่ 3 เรื่อง เนื้อหาสุขภาพที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเป็นเนื้อหาสุขภาพที่ส่งต่อๆ กันมา ซึ่งอาจไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์
อันดับที่ 4 เรื่อง ข่าวปลอม ข่าวลือ ข่าวลวง ที่ส่งต่อๆ กันมา
อันดับที่ 5 เรื่องการเข้าถึงเนื้อหาด้านเพศ ลามก อนาจาร โดยเห็นเน็ตไอดอล แต่งนุ่งน้อยห่มน้อย ไปในแนวโป๊ อนาจาร
อันดับที่ 6 เรื่อง หวยออนไลน์
อันดับที่ 7 เรื่อง การชักชวนเล่นการพนันให้เป็นสมาชิกเพจการพนัน บ่อนออนไลน์
อันดับที่ 8 เรื่อง การหลอกลวงจากการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยสั่งซื้อสินค้าแล้วได้ของที่ไม่มีคุณภาพ
อันดับที่ 9 เรื่องการหลอกลวงโดยชวนให้ไปทำงานหรือหารายได้ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่กลับกลายเป็นการเสนอขายสินค้า
อันดับที่ 10 เรื่อง ความเสียหายที่เกิดจาก ระบบคอมพิวเตอร์ โดยพบเห็นโฆษณาที่ส่งมาถึงเราโดยระบบคอมพิวเตอร์
อันดับที่ 11 เรื่อง แชร์ออนไลน์
อันดับที่ 12 เรื่องการถูกหลอกลวงจากคนแปลกหน้าว่าได้รับโชคแล้วให้กดลิงค์ที่นำไปสู่เนื้อหาที่อาจนำไปสู่การถูกหลอกลวงได้
อันดับที่ 13 เรื่อง ข้อมูลส่วนตัวถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นจนเกิดความเสียหาย
อันดับที่ 14 เรื่องหุ้นออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ
อันดับที่ 15 เรื่องการถูกกลั่นแกล้งจนเกิดความเสียหาย จากเพื่อนหรือคนอื่น ในเรื่องที่เสียหายน่าอับอายเกี่ยวกับตัวเรา
ทั้งนี้ ต้องเพิ่มความสามารถด้านความรอบรู้ทางดิจิทัลและรู้เท่าทันสื่อให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัยเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ.
ขอบคุณที่มา รายละเอียดข่าว ไทยรัฐออนไลน์ 8 ก.พ. 2563
