เตรียมพิธีพระราชทานเพลิงศพพระเดชพระคุณหลวงปู่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) ปราสาท “นกหัสดีลิงค์” ความเชื่อของคนล้านนา
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 จะมีพิธีอัญเชิญสรีระสังขารพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) หรือหลวงปู่ปวง ขึ้นสู่ปราสาทนกหัสดีลิงค์ ในเวลา 14.00 น. โดยมีพระราชปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา และคณะสงฆ์ได้ ร่วมกันดูแลงานการทำความสะอวดบริเวณ ตลอดจนวางแผนเรื่องริ้วขบวนอัญเชิญสรีระสังขารของหลวงปู่ปวงอย่างใกล้ชิด
กำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) อายุ 101 ปี พรรษา 81 อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 ระหว่างวันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เมรุชั่วคราว วัดศรีโคมคำ ต.เวียง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา วันพุธ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เริ่มเวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตร พระภิกษุ-สามเณร เวลา 10.00 น. พิธีถวายทาน เมรุปราสาทนกหัสดีลิงค์ อุทิศถวายพระพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) พระสงฆ์ 10 รูป สดพระพุทธมนต์ ทอดผ้าไตรบังสุกุล ถวายไทยธรรม เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ-สามเณร เวลา 13.00 น. พิธียอคุณ และอาราธนาสรีระสังขารพพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) ขึ้นสู่ปราสาทเพื่อเคลื่อนขบวนไปยังเมรุชั่วคราวฯ
ขณะเดียวกันบริเวณรอบพิธี ได้มีการจัดตั้งโรงทานของผู้มีจิตศรัทธากว่า 20 ราย ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวไข่เจียว น้ำดื่ม อาหารหวาน เพื่อให้บริการแก่พุทธศาสนิกชนที่มากราบไหว้สรีระสังขารพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร)ตลอดทั้งวัน นางมณฑิรา วงศ์ใหญ่ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวปลาประตูชัย อ.เมืองพะเยา ได้นำก๋วยเตี๋ยวปลาจำนวน 1,000 ถ้วย พร้อมกล้วยทอด มาให้บริการ กลุ่มฮักบ้านเกิดพะเยา นำไข่ไก่จำนวน 40 แผง ทำข้าวไข่เจียวเลี้ยง แม่ทองปอน จำรัส นำปลาส้มขึ้นชื่อของพะเยามาเลี้ยงผู้ร่วมงาน ฯลฯ ยังมีโรงทานน้ำดื่ม อาหารหวาน ร่วมเลี้ยงผู้ร่วมงานตลอดวันด้วยเช่นกัน
ปราสาท “นกหัสดีลิงค์” ความเชื่อของคนล้านนาในพิธีศพพระเถระ
“ว่ากันว่านกหัสดีลิงค์เป็นนกในวรรณคดีไทย ตัวเป็นนก หัวเป็นราชสีห์ มีงวง มีงา มีพละกำลังมากเป็น ๕ เท่าของช้าง เนื้อสีแดงเป็นมังสาหารและเป็นพาพนะของผู้มีบุญ ดังนั้นในพิธีงานศพของพระเถระเราจึงเห็นปราสาทบรรจุศพทำเป็นรูปนกหัสดีลิงค์”
วัฒนธรรมของคนล้านนาเกี่ยวกับพิธีศพนั้นเป็นความเชื่อที่ฝังรากลึกในวิถีชีวิตของคนเมืองมานานนับหลายร้อยปี เมื่อมีคนตายจะต้องจัดงานศพขึ้นเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่คนตายอย่างสมเกียรติ พิธีศพของคนล้านนาจะมีความแตกต่างจากพิธีศพของคนในภาคอื่นคือการจัดแต่งปราสาทใส่ศพประดับประดาด้วยดอกไม้สดหรือแห้งให้แลดูสวยงาม นัยว่าเพื่อเป็นการยกย่องผู้ตายให้ได้ขึ้นไปสู่สรวงสรรค์ชั้นฟ้า ปราสาทงานศพโดยทั่วไปจะนิยมใช้ในพิธีศพของคนในภาคเหนือเท่านั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากเมืองเชียงรุ้งแห่งสิบสองปันนา ซึ่งถือว่าเป็นต้นตระกูลเผ่าพันธุ์ไทแต่ดั่งเดิม
ในบรรดาพิธีศพของคนล้านนาดูเหมือนว่า พิธีศพของพระเถระจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ นอกจากคณะศรัทธาจากบ้านเหนือบ้านใต้จะเดินทางมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่งแล้ว ปราสาทใส่ศพของพระเถระชาวล้านนาก็นับว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้ปราสาทใส่ศพของบรรดาเจ้านายฝ่ายเหนือ ตามคติความเชื่อโบราณของล้านนา เจ้านายและพระเถระได้รับการยกย่องในสังคมว่าเป็นชนชั้นสูงและเมื่อสิ้นชีพไปแล้วจะไปจุติในภพที่สูงกว่า หรือเป็นเทพสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ของเขาพระสุเมรุ อันเป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นจากความเชื่อระหว่างศาสนาพุทธและพราหมณ์ผสมกัน
ความเชื่อดังกล่าวนำไปสู่การสร้างสรรค์และจัดรูปแบบพิธีศพที่ตอกย้ำถึงแนวคิดที่จะมุ่งไปสู่สวรรค์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเมรุปราสาทอันเป็นตัวแทนของวิมานสถิตบนพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาลมียอดปลายอยู่ในชั้นดาวดึงส์ หรือการจัดพิธีทางพุทธ เช่น บังสุกุล กรวดน้ำให้แก่ผู้ตาย ซึ่งชี้ให้เห็นการสังสมกุศลบารมี อันจะนำไปสู่ภพที่ดีกว่าคือ นิพพาน
ตามประเพณีที่ทำกันมาแต่โบราณ งานศพของพระสงฆ์จะมีพิธีทำบุญทำทานกันอย่างใหญ่โต มีงานมหรสพและการละเล่น เพื่อลดความวังเวงโศกเศร้า อีกทั้งยังเป็นการเสริมบรรยากาศให้เกิดมโนภาพของวิมานชั้นฟ้า โดยเฉพาะปราสาทใส่ศพอันเป็นที่สถิตของผู้ตายบนสวรรค์นั้นก็ได้รับการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามอลังการ ซึ่งทำเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ ว่ากันว่า นกหัสดีลิงค์เป็นนกในวรรณคดีไทย ตัวเป็นนก หัวเป็นราชสีห์ มีงวง มีงา มีพละกำลังมากเป็น ๕ เท่าของช้าง เนื้อสีแดงเป็นมังสาหารและเป็นพาพนะของผู้มีบุญ ดังนั้นในพิธีงานศพของพระเถระเราจึงเห็นปราสาทบรรจุศพทำเป็นรูปนกหัสดีลิงค์
ตำนานมูลศาสนา กล่าวว่า นกหัสดีลิงค์จะอาศัยอยู่บนจิกผา คอยปรนนิบัติอนุสิษฐฤาษี ครั้งหนึ่งวาสุเทพดาบส (แห่งดอยสุเทพ) หารือกับสุกกทันตฤาษี (เมืองละโว้) คิดอยากสร้างเมืองหริภุญไชย อยากได้เปลือกหอยสังข์จึงใช้ให้นกหัสดีลิงค์ไปคาบเอาหอยสังข์กลางมหาสมุทร์ ในหนังสือเล่าเรื่องไตรภูมิ ของพระยาอนุมานราชทน ซึ่งแปลจากคัมภีร์ไตรภูมิพระร่วงของพญาลิไทแห่งนครสุโขทัย กล่าวว่าการทำศพของชาวอุตตรกุระซึ่งเป็นผู้มีบุญนั้น จะนิยมห่อศพด้วยผ้าขาวแล้วนำไปวางไว้กลางแจ้ง แล้วจะมีนกหัสดีลิงค์มาคาบหรือคีบไปทิ้งในที่อื่น
“…อันว่านกนั้นไส้ ลางอาจารย์ว่านกหัสดีลิงค์ ลางอาจารย์ว่านกอินทรี ลางอาจารย์ว่านกกด อันมาคาบเอาศพไปเสียนั้น ลางอาจารย์ว่าเอาตีนคีบไปเสีย…”
ขณะเดียวกันในตำนานสิงหวติกุมาร ประเพณีเมืองเชียงแสน กล่าวว่า ตัวราชครูเจ้าวัดหลวงอนิจกรรมไปแล้ว ใส่ปราสาทต่างรูปนกหัสดีลิงค์ ส่งสการด้วยเรือพ่วงกลางแม่น้ำของ ซึ่งจะเห็นว่าในอดีตพิธีศพของพระเถระมักจะเกี่ยวข้องกับนกหัสดีลิงค์โดยจะนิยมสร้างปราสาทหรือเมรุบรรจุศพเป็นรูปนกหัสดีลิงค์
การประดับประดาปราสาทศพของพระดูจะหรูหรามากกว่าของคนทั่วไป โดยเฉพาะระดับเจ้าอาวาส หรือ พระที่มีอายุพรรษามาก ๆ หรือเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ก็จะจัดงานที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น สำหรับการจัดงานศพของพระในภาคเหนือจะนิยมเก็บศพของพระไว้จนถึงหน้าแล้งหรือราวเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน การสร้างไม้ศพหรือเมรุนั้นจะประกอบด้วยไม้จิงเป็นพื้น ลักษณะรูปแบบของไม้จะเป็นทรงปราสาทมีเสาตั้งแต่ ๑๒ ต้นขึ้นไป มีฐานตั้งอยู่บนนกหัสถ์ ศรัทธาชาวบ้านจะชักชากเมรุไปเผา มีฆ้องกลองเครื่องแห่ไป ระหว่างที่เคลื่อนปราสาทศพไปจะมีคนตีกังสดาล หรือที่คนเมืองเรียกว่า “ปาน” การตีกังสดาลนั้นผู้ตีจะเดินไปตีไปตั้งแต่หัวขบวนจนถึงท้ายขบวน วนไปมาจนกว่าปราสาทจะถึงที่เผา
สิ่งที่น่าสังเกตุอีกอย่างหนึ่งสำหรับพิธีเผาศพพระนั่นก็คือ พิธีจะจัดอยู่ในบริเวณวัดและจะทำการเผาศพพระในบริเวณนั้นเลย ซึ่งต่างจากของคนทั่วไปที่จะไม่ให้เผาในวัด
ปราสาทศพรูปนกหัสดีลิงค์ของพระเถระชาวล้านนานอกจากจะเป็นวัฒนธรรมตามความเชื่อที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษแล้ว ถ้ามองในแง่ของงานศิลปะถือได้ว่าเป็นงานที่สะท้อนฝีมือและความคิดในการสร้างสรรค์ที่ไม่มีชุมชนใดของประเทศเสมอเหมือนนอกจากบนผืนแผ่นดินล้านนานี้เท่านั้น
เอกสารประกอบ
ส.พรานน้อย “สัตว์หิมพานต์” ๒๕๓๙
อุดม รุ่งเรืองศรี ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ (เล่ม ๖,๑๔) ๒๕๔๒
อีก ๙ วันจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณหลวงปู่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺญมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ
เรียนเชิญสาธุชนทุกท่านร่วมทำบุญ ติดต่อสอบถามได้ที่
วัดศรีโคมคำ ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
หรือที่ พระครูสุกิตยากร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา โทร.๐๙-๑๕๔๖-๔๔๕๓
และพระครูพินิตธรรมประภาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ โทร.๐๙-๕๑๔๖-๕๔๕๒
และที่ บัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาพะเยา ชื่อบัญชี วัดศรีโคมคำฯ เลขที่บัญชี ๕๑๒-๐-๙๒๘๙๔-๓
ภาพ วัดศรีโคมคำ
ข้อมูล เพจ ตามรอยธรรม ค้ำจุนศาสนา