อัมพรชี้ ภาคเรียนที่1 ปรับวิธีการสอบใหม่ ไม่เน้นกาข้อสอบ วอนครูอย่าปล่อยเกรด ภาคเรียนที่1 ประเมินจากโครงงาน ใบงาน แทนการกาข้อสอบ ส่วนภาคเรียนที่2 การสอบเลื่อนชั้นยืดหยุ่น
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในการแถลงข่าว “จุดยืนลดภาระทางการศึกษา” เพื่อชี้แจงแนวทางในการช่วยเหลือนักเรียน ผู้ปกครอง และครู ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามมาตรการลดภาระทางการศึกษา ของ ศธ.และรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ปกครองในภาวะวิกฤติ และส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาได้รับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ตามศักยภาพ โดยฝากให้ รมว.ศธ. เร่งมอบเงินให้ถึงมือผู้ปกครองโดยเร็ว และขอบคุณ ศธ.ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ขอให้ ศธ.และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พัฒนารูปแบบการศึกษาให้ตอบโจทย์การเรียนวิถีใหม่ และต้องลดภาระผู้ปกครอง นักเรียน และครู ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อเราจัดการศึกษามาได้ระยะหนึ่งเราจะพบว่าหากเราจัดการสอบแบบเดิมเหมือนการเรียนที่โรงเรียนแบบปกติจะเกิดปัญหา เพราะนักเรียนไม่ได้มาเรียนที่โรงเรียน แต่เป็นการเรียนในรูปแบบอื่นๆ เช่น ออนไลน์ หรือ แจกใบงานให้ไปทำที่บ้าน เป็นต้น ดังนั้นการวัดและประเมินผลที่ผ่านมาจะต้องมีการสอบกาคำตอบที่ถูกต้องด้วย ก ข ค ง แต่การเรียนในยุตวิกฤตเช่นนี้ต้องยืดหยุ่นไม่จำเป็นต้องมานั่งทำข้อสอบ เพราะนักเรียนไม่ได้เรียนวิชาการแบบเต็มรูปแบบ เช่น การสอบผ่านรูปแบบใบงาน การปฏิบัติ แฟ้มสะสมงานแทน เป็นต้น
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนภาคเรียนที่ 2 ซึ่งเป็นการสอบเพื่อเลื่อนชั้นและจบการศึกษาของนักเรียนชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 หากไม่มีการวัดและประเมินผลด้วยการสอบก็จะไม่มีคะแนนใช้ศึกษาต่อได้ ดังนั้นเราต้องไม่ทำให้เด็กช่วงชั้นเหล่านี้เสียสิทธิ แต่จะต้องหาวิธีการวัดและประเมินผลให้ยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน สำหรับมาตรฐานการวัดและประเมินผลของแต่ละสถานศึกษานั้นจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มีการปล่อยเกรดเกิดขึ้น
เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าบริบทของสถานศึกษาแต่ละแห่งไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่การวัดและประเมินผลในสถานการณ์เช่นนี้ก็ต้องประเมินเพื่อให้เห็นว่านักเรียนมีการพัฒนาขึ้น ซึ่งถือว่าดีแล้ว โดยตนได้ย้ำกับสถานศึกษามาตลอดว่าการจัดการเรียนการสอนต้องยึดความปลอดภัยของครูและนักเรียน ส่วนมาตรฐานที่นักเรียนสามารถแข่งขันได้คงต้องรอหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้วค่อยมาเติมทักษะให้ดีขึ้น
ขอบคุณที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 16 สิงหาคม 2564