จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.

จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.

จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.
จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” ของมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บาท จากคนไทย 1 ล้านคน เร่งผลิตวัคซีนโควิด-19 จากใบพืชเพื่อเตรียมทดสอบในมนุษย์ได้ทันภายในเดือนมิถุนายน 2563 พร้อมเปิดตัว “ทีมไทยแลนด์” ร่วมพัฒนาวัคซีนสานฝันคนไทยมีวัคซีนใช้เองจากฝีมือคนไทย 100% คาดพร้อมใช้ปลายปี 2564

จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.

มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” เปิดรับบริจาคทุนวิจัย 500 บาท จากคนไทย 1 ล้านคน รวม 500 ล้านบาท เพื่อเร่งผลิตวัคซีนโควิด-19 จากใบพืชเพื่อทดสอบในมนุษย์ได้ทันภายในเดือนมิ.ย.64 พร้อมเปิดตัว “ทีมไทยแลนด์” ร่วมลงนามความร่วมมือวิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนป้องกันโรคจากไวรัสโควิด-19 ระหว่างองค์การเภสัชกรรม กับ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด และบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์ฯ ได้ขานรับนโยบาย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วยการตั้ง บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพจุฬาฯ จากการบ่มเพาะของศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือ CU Innovation Hub และมีผลงานนวัตกรรมเชิงประจักษ์ ช่วยชาติ ช่วยคนไทยออกมามากมายในช่วงที่ผ่านมา

โดยเฉพาะนวัตกรรมจากงานวิจัยของ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ที่สามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบพืชได้สำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการ โดยใบพืชดังกล่าวมาจากยาสูบ และพร้อมก้าวไปอีกขั้นเพื่อผลิตวัคซีนนี้ได้เองภายในประเทศตั้งแต่ต้นน้ำในโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” ซึ่งความสำเร็จของการค้นคว้า วิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความหวังให้กับคนไทยทั้งชาติสามารถก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ในเร็ววัน ยังเปิดมิติใหม่ให้กับการพัฒนาองค์ความรู้เรื่องการพัฒนายาและวัคซีนให้กับประเทศไทย ต่อยอดเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับคนไทย และจะสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศไทยได้

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า ตื่นเต้นที่กำลังจะมีวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทย เพราะถ้าพูดถึงอุตสาหกรรมผลิตยาหรือวัคซีนที่ทำโดยคนไทยถือว่าประเทศไทยยังขาด การนำเข้าอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เพราะเวลาวิกฤติต่อให้มีเงินมากมายแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้ เราจึงต้องพึ่งตนเองให้ได้ เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืน และยังมีความยินดีที่จะบอกว่า วันนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า นอกจากเรื่องการผลิตวัคซีนที่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญแล้ว ยังมีบริษัทคนไทยที่สามารถผลิตได้แม้กระทั่งยุทโธปกรณ์อย่างรถถังและเรืออีกด้วย ที่สำคัญ เร็วๆ นี้ไทยจะเป็นชาติที่ 5 ของเอเชีย ที่จะสามารถผลิตยานอวกาศและส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 7 ปี และอาจมีการขอความร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในการระดมทุน ตนเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะเปลี่ยนวิธีคิดของคนไทย ว่าไทยไม่ใช่ประเทศที่ด้อยพัฒนาอีกแล้ว เราเป็นประเทศที่มีอนาคต มีโอกาส และมีความหวัง

จุฬาฯเปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย รับบริจาคทุนวิจัย 500 บ. 1 ล้านคน เริ่ม 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.

ขั้นตอนและช่องทางการรับบริจาควัคซีนเพื่อคนไทย

1. สแกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนและรับสิทธิในการบริจาคที่ www.CUEnterprise.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น.

2. สามารถเลือกช่องทางการบริจาคได้ 2 ช่องทาง ได้แก่

2.1 ใช้ Mobile Banking Application ของธนาคารใดก็ได้แสกน QR CODE เพื่อบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ เมื่อเสร็จสิ้นการทำรายการจะได้รับ Bill Payment เป็นหลักฐาน

2.2 ทำรายการที่หน้าเคาเตอร์ธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เพียงยื่นบัตรประชาชนและแจ้งว่าบริจาคให้โครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” จะได้ Pay-in Slip เป็นหลักฐาน 

โดยรับบริจาคท่านละ 500 บาท จำนวน 1 ล้านสิทธิ (จำกัด 1 คนต่อ 1 สิทธิ)

โครงการวัคซีนเพื่อคนไทยขอตอบแทนน้ำใจผู้บริจาคดังนี้

1. สิทธิส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยประเภทบุคคล เช่น สุขภาพ รถยนต์ อัคคีภัย ฯลฯ สำหรับกรมธรรม์ฉบับใหม่จากบริษัทประกันที่เข้าร่วมโครงการ เช่น บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยส่วนลด 12% – 23%**  

2.   ในกรณีผลิตวัคซีนสำเร็จและพร้อมให้บริการแก่บุคคลทั่วไป ผู้บริจาคจะมีสิทธิจองซื้อวัคซีนได้ก่อนบุคคลทั่วไป แต่จะได้สิทธิ “หลังจาก” การให้ การจำหน่าย หรือการใช้วัคซีนให้แก่บุคคลอื่นใด ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายหรือรัฐบาลกำหนด (หากมี)*** 

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โทร. 0-2576-5500

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่