เชิญชวน ทดสอบวัดความเครียด ด้วยแอป Mental health Check Up โดยกรมสุขภาพจิต

เชิญชวน ทดสอบวัดความเครียด ด้วยแอป Mental health Check Up โดยกรมสุขภาพจิต
เชิญชวน ทดสอบวัดความเครียด ด้วยแอป Mental health Check Up โดยกรมสุขภาพจิต 3

กรมสุขภาพจิต ได้ออกแบบ แอป Mental Health Check up ประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต ถึง  6 รายการด้วยกัน ได้แก่ ความเครียด ซึมเศร้า/ฆ่าตัวตาย ภาวะสมองเสื่อม ความสุข ความฉลาดทางอารมณ์ และพลังสุขภาพจิต 

โดยวิธีใช้เพียงโหลดแอป แอป Mental Health Check up ทาง App Store และ Play Store แล้วเลือกประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 1 ใน 6 รายการ แล้วตอบคำถาม ตามความคิดของคุณ หลังตอบครบถ้วนแล้ว แอปจะสรุประดับความเครียด หรือระดับความเสี่ยงว่าอยู่ระดับใด หากอยู่ในระดับสูง ทางแอปจะแนะนำให้ไปพบหมอหรือโทรหาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ทันที ซึ่งขณะนี้ได้ขยายคู่สายของ 1323 รองรับผู้ที่จะโทรเข้ามาเป็นจำนวนมากเรียบร้อยแล้ว 

เชิญชวน ทดสอบวัดความเครียด ด้วยแอป Mental health Check Up โดยกรมสุขภาพจิต 4

นอกจากนี้ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีจนเป็นที่ยอมรับ เพราะประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ประเทศเรามีระบบการควบคุมโรคที่ดีในระดับแนวหน้าของโลก, มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 40 ปี และประเทศเรามีจิตอาสาที่ประเทศอื่นไม่มีที่พร้อมดูแลช่วยเหลือกันและกันในสถานการณ์ที่ยากลำบาก รวมทั้งมีระบบการเกษตร และธรรมชาติที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานได้ 

ดังนั้นในสถานการณ์นี้ขอเพียงให้คนไทย ดึงพลัง “อึด ฮึด สู้” ที่มีอยู่ในตัวเองของทุกคนออกมาใช้ ก็จะสามารถก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ แต่หากใครรู้สึกพลังหมด เครียดไปต่อไม่ไหว และมีสัญญาณที่บ่งบอก 3 ด้าน คือ ด้านร่างกาย นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ตื่นเต้นตกใจง่าย ปวดศีรษะ ความดันสูง ด้านอารมณ์ หงุดหงิดง่าย มีความเครียด รู้สึกโกรธ ฉุนเฉียว ท้อแท้ ซึมเศร้า ด้านพฤติกรรม มีความสัมพันธ์กับครอบครัวและคนรอบข้างลดน้อยลง มีความก้าวร้าวมากขึ้น อดทนต่อสิ่งกระตุ้นได้น้อยลง ขออย่าเก็บไว้คนเดียวให้หาคนปรึกษา หรือใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323

สำหรับการใช้พลัง “อึด ฮึด สู้” (Resilience) เพื่อสร้างกำลังใจที่เข้มแข็ง และต่อสู้เอาชนะอุปสรรค ที่ทำให้เราผ่านพ้นความทุกข์ไปได้    มีแนวทางคือ 

พลัง “อึด” คือ การทนต่อแรงกดดัน สามารถสร้างได้ด้วยการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ควบคุมอารมณ์ได้ดี รู้จักปรับอารมณ์ปรับความคิด คิดในเชิงบวกไม่ท้อถอยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต 

พลัง “ฮึด” คือพลังที่เมื่อเจอแรงกดดัน หรือเจอสถานการณ์ลำบาก แล้วสามารถมีแรงใจที่จะลุกขึ้นมาใหม่ สามารถสร้างได้จากการเพิ่มศรัทธาในชีวิต โดยมองว่าชีวิตยังมีความหวัง ถ้าเรารู้สึกไม่ไหวให้หาคนที่เราไว้ใจช่วย และที่สำคัญคือต้องมีกำลังใจ ซึ่งแต่ละคนสร้างและหาได้ ทั้งสร้างกำลังใจด้วยตัวเอง กำลังใจจากครอบครัว และ กำลังใจจากสังคมซึ่งประเทศไทยมีให้กันตลอดเวลา 

พลัง “สู้” เป็นพลังเสริมจากพลังฮึด เป็นพลังเอาชนะอุปสรรคต่างๆ สามารถสร้างได้ด้วยการปรับเป้าหมาย ปรับการกระทำ ปรับพฤติกรรม ให้หาทำอะไรในสิ่งที่พอทำได้ให้ทำไปก่อน อย่างไปคาดหวังมากจนเกินไป และควรปรับเป้าหมายชีวิตให้เล็กลง เพื่อให้ยืนอยู่และผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์ไปได้ 

ทั้งนี้จากหลายเหตุการณ์วิกฤติที่ผ่านมา คนไทยสามารถดึงพลังนี้ออกมาใช้ ทำให้สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ และสามารถจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อมั่นว่าเกิดการณ์วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ คนไทยก็จะสามารถจับมือก้าวผ่านเพื่อสู่สังคมที่ดีกว่าไปพร้อมกันในอีกไม่ช้า อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

ขอบคุณที่มา : IT24hrs https://www.it24hrs.com/2020/mental-health-check-up-app/

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่