แนะนำ 7 หลักสูตรวิทย์-เทคโนภาคพิเศษยุคดิจิทัล จบแล้วมีงาน
ต้องยอมรับเลยว่าปัจจุบันเด็กที่จบปริญญาตรีจำนวนมากตกงาน ว่างงาน ผลสำรวจการทำงานของประชากร พบว่ามีผู้ว่างงานกว่า 3.85 แสนคน คิดเป็นอัตราว่างงานในกลุ่มอายุ 25 ขึ้นปีขึ้นไป ถึงร้อยละ 0.4 และผู้จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) ตกงานมากถึง 1.73 แสนคน ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก
วันนี้เราจะพาไปดู 7 หลักสูตรภาคพิเศษน่าเรียนในยุคดิจิทัล มุ่งสู่ฝันกับอาชีพที่ตอบโจทย์ความต้องการในอุตสาหกรรมและตลาดแรงงานในอนาคต จากทาง SCI-TU หรือคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จะมีสาขาหลักสูตรอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย
1.วิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรของภาคพิเศษ
เป็นหลักสูตรที่เน้นศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะหลักสูตรวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เป็นหลักสูตรยอดนิยมได้รับความสนใจจากน้อง ๆ จำนวนมาก ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรม แอปพลิเคชัน และระบบสารสนเทศ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI หรือ Data Science อาชีพที่ต้องการในตลาดแรงงาน นอกจากนี้ยังมีสายงานใหม่เหมาะกับกลุ่ม Gen Z อย่าง UI/UX ที่ประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์และหลักการตลาด เพื่อออกแบบระบบหรือผลิตสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น Youtube Channel
2 . สาขาวิชาสถิติ รับยุคทองของข้อมูล
เป็นหลักสูตรในโครงการพิเศษที่เน้นเรื่องของความสามารถในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาจัดการกับข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎีทางสถิติ น้อง ๆ จะได้ทักษะการคิดและจัดการกับข้อมูลจากในหลาย ๆ วิชาที่ให้ฝึกการคิดคำนวณ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบันที่เป็นยุคทองของข้อมูล ดังนั้นหลักสูตรสถิติ เอกสถิติประยุกต์ ของทาง SCI-TU จึงเป็นหลักสูตรสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคนี้เป็นอย่างมาก จากการถ่ายทอดทั้งความรู้และเน้นความชำนาญ เพื่อพัฒนาบัณฑิตให้เป็นผู้มีความสามารถและก้าวสู่โลกการทำงานได้จริงใน สำหรับสาขาวิชาสถิติภาคพิเศษ เปิดรับนักศึกษารอบละ 50 คน
3. คณิตศาสตร์ ใครอยากเรียนเอกการเงินต้องมา
สายคณิตศาสตร์และน้อง ๆ ที่สนใจด้านการเงิน ต้องเรียนหลักสูตรนี้เท่านั้น โดยหลักสูตรคณิตศาสตร์ภาคพิเศษ ของ SCI-TU เน้นศึกษาตั้งแต่รากฐานไปจนถึงคณิตศาสตร์ขั้นสูง ได้เรียนรู้ทฤษฎีและหลักการอย่างลึกซึ้ง เพื่อสามารถวิเคราะห์ วิจัย หรือค้นคว้าทางด้านวิชาการในระดับประเทศและระดับสากล สำหรับน้อง ๆ ที่อยากศึกษาต่อเพื่อเป็นครูหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็สามารถมาเรียนในสาขานี้ได้เช่นเดียวกัน และในภาคพิเศษนี้ ยังมีความพิเศษ เพราะมีการเปิดสอนหลักสูตรที่ไม่มีในภาคปกติอย่าง “วิชาเอกคณิตศาสตร์การเงิน” ที่วิเคราะห์ปัญหาด้านการเงินการลงทุนโดยเฉพาะ สำหรับใครอยากเรียนหลักสูตรนี้สามารถยื่นสมัครหลักสูตรคณิตศาสตร์ในภาคพิเศษ โดยเปิดรับนักศึกษารอบละ 40 คน
4.คณิตศาสตร์การจัดการ ศาสตร์แห่งการประยุกต์
เป็นวิทยาศาสตร์ทางด้านการจัดการ ที่ผสานหลักการทางด้านคณิตศาสตร์ สถิติ คอมพิวเตอร์ เข้ากับกระบวนการทางด้านการจัดการ เป็นศาสตร์แห่งการประยุกต์ ด้านการเรียนการสอนเน้นทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งกำลังขาดแคลนคนรุ่นใหม่ ในการคิดวิเคราะห์ จัดระบบ เชื่อมโยงข้อมูล การวิเคราะห์แบบการจำลองสถานการณ์ การพยากรณ์ การวางแผนและตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยวิธีการที่เหมาะสมที่สุด
5.วิทยาการประกันภัย ความต้องการตลาดสูง
หลักสูตรนี้น้อง ๆ จะได้เรียนรู้การวิเคราะห์เหตุการณ์ในอดีต ประเมินความเสี่ยงในปัจจุบัน และสร้างตัวแบบเพื่อคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต สำหรับธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย การจัดการความเสี่ยงด้านการเงิน การจัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญต่าง ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก โดยใช้พื้นฐานของคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ การจัดการความเสี่ยง เศรษฐศาสตร์ การบริหาร ธุรกิจ การบัญชีการเงินและกฎหมายมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้เครื่องมือสำหรับการบริหารและการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ ให้เกิดความมั่นคงทางการเงินของสังคมส่วนรวม เกิดสมดุลที่ดีระหว่างการดูแลประโยชน์ทั้งบริษัทและผู้ประกันภัย โดยหลักสูตรวิทยาการประกันภัย ภาคพิเศษ เปิดรับนักศึกษาจำนวนทั้งหมด 40 คน
6. หลักสูตรสมัยใหม่ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมข้อมูล
สำหรับการเปิดหลักสูตรนี้ เพื่อผลิตบัณฑิตตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม โดยมีการเรียนผ่านเทคนิคและเครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) อันทันสมัย อีกทั้งยังได้เรียนรู้ศาสตร์ด้านคณิตศาสตร์ สถิติ คอมพิวเตอร์ รวมถึงนวัตกรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ เมื่อจบหลักสูตรนี้ไป เป็นได้ทั้งนักวิเคราะห์ข้อมูล วิศวกรข้อมูล หรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นอาชีพที่ในตลาดต้องการทั้งสิ้น น้อง ๆ ที่สนใจสมัครเข้าเรียนต้องมีเกรดเฉลี่ยสะสมหรือ GPAX 2.75 จำนวนที่รับรอบละ 30 คน
7. เทคโนโลยีพลังงานชีวภาพและการแปรรูปเคมีชีวภาพ
สายรักษ์โลกและผู้ที่ชื่นชอบการเรียนเคมี ชีวภาพ ต้องเรียนเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพและการแปรรูปเคมีชีวภาพหลักสูตรภาคพิเศษของ SCI-TU เพราะน้องๆ จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ ประยุกต์กับเคมี และพื้นฐานทางวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งได้ความรู้และประสบการณ์จริงจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และได้ร่วมฝึกงานกับองค์กรขนาดใหญ่ตลอด 1 ปีการศึกษา เรียกได้ว่าจบไปทำงานได้จริง พร้อมทักษะการทำงาน การแก้ปัญหาในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยสาขาดังกล่าวเปิดรับนักศึกษารอบละจำนวน 20 คน
สำหรับน้องๆ ที่สนใจศึกษาหลักสูตรภาคพิเศษ ทาง SCI-TU เปิดรับด้วยกัน 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน (Admission 1) ระหว่างวันที่ 17 – 27 เมษายน 2563 และรอบที่ 4 รับกลางร่วมกัน (Admission 2) ระหว่างวันที่ 7 – 20 พฤษภาคม 2563 หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
ปล. ถึงจะเป็นภาคพิเศษ แต่ก็เรียนวันธรรมดาเวลาปกติเหมือนหลักสูตรทั่วไป ไม่ได้เรียนภาคค่ำหรือเรียนวันเสาร์-อาทิตย์อย่างที่หลายคนเข้าใจน้า
.
หากน้องๆ มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามมาทาง Inbox ของเพจ หรือ โทร. 0-2564-4440-59 ต่อ 2002, 2020, 2045 ได้เลย
ขอบคุณที่มาเว็บไซต์: thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Science & Technology Thammasat University Official