ก.ค.ศ.ผ่านร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เริ่มใช้ในการย้ายปี 2563

ก.ค.ศ.ผ่านร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เริ่มใช้ในการย้ายปี 2563

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด ศธ. ซึ่งได้ 3 กรณี คือ การย้ายกรณีปกติ การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ และการย้ายกรณีพิเศษ โดยเห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์นี้ สำหรับย้ายประจำปี 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ เพื่อให้การย้ายผู้บริหารสถานศึกษามีความสอดคล้อง เหมาะสมกับแต่ละบริบท เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นผลดีแก่ราชการ และเป็นไปตามนโยบายของ ศธ. ที่สำคัญเชื่อว่าการเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ เนื่องจากมีการกระจายคนที่มีความสามารถไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แม้จะมีคนกังวลว่า ไม่อยากไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ตนอยากให้ผู้บริหารโรงเรียนมีโอกาสทำงานไม่ว่าจะอยู่ในโรงเรียนขนาดใดก็ต้องมีโอกาสเติบโต และแรงจูงใจต้องใกล้เคียงกัน ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ให้ประโยชน์กับการศึกษา

ก.ค.ศ.ผ่านร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เริ่มใช้ในการย้ายปี 2563 2

รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้ได้รับคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รวม  293 ราย แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)  241 ราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)  52 ราย และอนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ที่ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 38 ค.(2)  11 ราย แบ่งเป็น สพป.  6 ราย และ สพม.  5 ราย ทั้งนี้ ในการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

“ผมได้เน้นย้ำแนวทางการเข้าสู่ตำแหน่งรอง ผอ.สพท. ที่จะใช้ในการคัดเลือก กว่า 4,000 อัตรา ว่า จะต้องมีมาตรฐานอะไรบ้าง โดยเฉพาะการสอบด้านต่าง ๆ ขอให้ สพฐ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุวันที่ชัดเจน และหลังจากที่ผลการสอบออกมา อยากให้มีเวลาเพิ่มขึ้นในการพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละคน เพราะกลัวว่าจะมีเวลาตัดสินใจน้อยในการวางแผนกระจายคนที่มีความสามารถไปทั่วประเทศ ที่สำคัญภาษาอังกฤษของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งจะต้องเข้มข้น เช่นเดียวกับทักษะด้านเทคโนโลยี ที่ทุกคนต้องมี เพื่อยกระดับการการทำงานของกระทรวง”นายณัฏฐพล กล่าว

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้อนุมัติการย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สพท. จำนวน 15 ราย ดังนี้

  • 1.นายชัยนนท์ นิลพัฒน์ รอง ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 4 เป็น รอง ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 3
  • 2.นายพิศิทธิ์ แพงศรีนิธิศ รอง ผอ. สพป.สมุทรสงคราม เป็น รอง ผอ.สพป.สมุทรสาคร
  • 3.นายชัยยุทธ อินฤทธิพงศ์ รอง ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 เป็น รอง ผอ.สพป.พังงา
  • 4.นายดนัย เส้งสีแดง รอง ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 3 เป็น รองผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1
  • 5.นางอุรารักษ์ สุขสวัสดิ์ รอง ผอ.สพม.เขต 6 เป็น รอง ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2  
  • 6.นายประกอบกิตติ์ ปัสสวาท รอง ผอ. สพป.เชียงใหม่ เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4  
  • 7.นายทองศรี โพธิ์ทอง รอง ผอ.สพป.ยโสธร เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 5
  • 8.นายทวีสิทธิ์ มั่นจิต รอง ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 3 เป็น รอง ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 1
  • 9.นายประสิทธิ์ เมืองไสย รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เป็น รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4
  • 10.นายเสนอ แสนคำ รอง ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ช่วยปฏิบัติราชการ สพป.ร้อยเอ็ด เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 2
  • 11.นายสุดสาคร เรืองวิเศษ รอง ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.เขต 2
  • 12.นายจีระศักดิ์ ภาระเวช รอง ผอ.สพป.ยโสธร เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.ยโสธร เขต 2  
  • 13. นายนุกูล จันดารักษ์ รอง ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 2  เป็นรอง ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 2
  • 14.นางจุรีรัตน์ คีรีรัตน์ รอง ผอ.สพป.ตรัง เขต 1 เป็นรอง ผอ.สพป.ตรัง เขต1 และ
  • 15.นายศุภวัฒน์ อวะภาค รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 เป็น รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 2

ซึ่งรายที่ 9-15 ให้ไปดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สพท.ตำแหน่งโครงสร้าง

ขอบคุณที่มาและรายละเอียดของข่าว : เดลินิวส์ออนไลน์ วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่