ก.ค.ศ. แจง แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ กรณีไปช่วยราชการ ที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ

ก.ค.ศ. แจง แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ กรณีไปช่วยราชการ ที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ ที่ ศธ.0206.3/154 ลงวันที่ 17 มกราคม 2566

แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรณีไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ

ตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ – ๔ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งหลักกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและตำแหน่งศึกษานิทศก์ และกำหนดตัวขี้วัด รายละเอียตประกอบหลักเกณฑ์ และคู่มือการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าว ให้ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษาทราบและถือปฏิบัติ นั้น

ก.ค.ศ. พิจารณาแล้ว มีมติกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรณีไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้ สำหรับการใดที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารอบปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ไปแล้วก่อนแจ้งหนังสือฉบับนี้ ให้เป็นไปตามที่ได้ดำเนินการไว้เดิม

ก.ค.ศ. แจง แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ กรณีไปช่วยราชการ ที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ
ก.ค.ศ. แจง แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ กรณีไปช่วยราชการ ที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ

ด้วยปรากฏว่ามีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ โดยใช้ความรู้ความสามารถปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการประมินตำแหน่งและวิทยฐานะ รวมทั้งมีความก้าวหน้าในเส้นทางวิชาชีพเสมือนการปฏิบัติราชการในหน่วยงานต้นสังกัด

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๔) และมาตรา ๕๔ แห่งพระราขบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ก..ศ. จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรณีไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ ดังนี้

๑. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องมีหลักฐานการไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ เช่น หนังสือคำสั่ง หรือหนังสืออนุญาต หรือบันทึกเป็นเอกสารหลักฐานอื่นใดจากหน่วยงานหรือส่วนราชการต้นสังกัด

๒. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยให้ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานหรือส่วนราชการที่ไปช่วยราชการเป็นผู้รับรอง

๓. การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน การประมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง และการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามหนังสือสำนักงาน กค.ศ. ที่ ศธ ๑๒๐๖๗ว ๙ – ว ๑๑ ลงวันที่ ๒0 พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยให้ดำเนินการตามแนวทางดังต่อไปนี้

๓.๑ ให้ข้าราขการครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนดทุกปีงบประมาณ เสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกักระทรวงศีกษาธิการ หรือไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาสังกัดอื่น หรือผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่ไปช่วยราชการ แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นขอบ และรายงานข้อตกลงในการพัฒนางานที่ผ่านความเห็นชอบแล้วให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัตทราบด้วย

ก.ค.ศ. แจง แนวปฏิบัติในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ กรณีไปช่วยราชการ ที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ

๓.๒ การแต่งตั้งกรรมการประเมินข้อตกลงในการพัฒนางาน

๓.๒.๑ กรณีไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไปช่วยราชการ หรือผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่ไปช่วยราชการ ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการแล้วแต่กรณี แต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาตันสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัต เป็นประธานกรรมการและแต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไปช่วยราชการ หรือผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่ไปช่วยราชการเป็นกรรมการประเมิน สำหรับกรรมการประเมินอีก 2 คน ให้แต่งตั้งตามองค์ประกอบของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

๓.๒.๒ กรณีไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาหรือหน่วยงานสังกัดอื่นที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาต้นสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาตันสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการประมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง โดยให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาตันสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เป็นประธานกรรมการ และแต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไปช่วยราชการหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอน หรือผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานที่ไปช่วยราชการ แล้วแต่กรณี เป็นกรรมการประเมินสำหรับกรรมการประเมินอีก ๑ คน ให้แต่งตั้งตามองค์ประกอบของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ทั้งนี้ การประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงให้พิจารณาประเมินตามระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของตำแหน่งและวิทยฐานะตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด และให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาตันสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด แล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบนำข้อมูลผลการประเมินการพัฒนางานตามซ้อตกลงในแต่ละรอบการประเมินของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าสู่ระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัล(Digital Performance Appraisal : DPA) เป็นประจำทุกรอบการประเมิน

๓.๓ สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้แจ้งความประสงค์ในการยื่นคำขอรับการประเมินต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไปช่วยราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษธิการ หรือไปช่วยราชกรหรือไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาสังกัตอื่น หรือผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานที่ไปช่วยราชการในสังกัดอื่น แล้วแต่กรณี เพื่อให้ดำเนินการตรจสอบคุณสมบัติและรับรองข้อมูลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แล้วจึงส่งข้อมูลคำขอพร้อมหลักฐานให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัต ตรวจสอบและรับรองคุ ณมบัติและนำข้อมูลคำขอพร้อมหลักฐานเข้าสู่ระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัล (Digital Performance Appraisal : DPA)

ทั้งนี้ การพิจารณาเกี่ยวกับการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐาน การแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินการพิจารณาผลการประเมิน การแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ และการดำเนินการในช่างระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศที่ ศธ ๑๒๐๖.๓/ว ๙ – ว ๑๑ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ :: เว็บไซต์ ก.ค.ศ.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่