แนะเพิ่มสวัสดิการ-พักชำระหนี้ให้ครู 2 ปี

แนะเพิ่มสวัสดิการ-พักชำระหนี้ให้ครู 2 ปี แก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งที่ต้นเหตุ และปลายเหตุ โดยเสนอให้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตครู การจัดสวัสดิการบ้านพัก สวัสดิการยานพาหนะ การพักชำระหนี้ 2 ปี การปรับโครงสร้างเงินเดือนให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ดร.เพิ่ม หลวงแก้ว โฆษกประจำคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขหนี้สินครู สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายปรีดา บุญพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้รับฟังสาเหตุและที่มาของหนี้สินครู สภาพหนี้ รวมถึงแนวทางแก้ไขหนี้สินครู หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯได้แบ่งคณะทำงานทำงานออกเป็น 3 คณะ เพื่อไปศึกษาข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทำให้เห็นสภาพปัญหาหนี้สินครูที่ชัดเจนขึ้น พร้อมทั้งยังได้มีการสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู

จะมีการดำเนินการภายใต้หลักการดังนี้ ให้มีการรวมภาระหนี้สิน เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างหนี้ของครูแต่ละคน , ต้องไม่เพิ่มภาระหนี้สิน , ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อให้ครูมีเงินเดือนเหลือพอเพียงต่อการดำรงชีวิตประจำวัน , การมีส่วนร่วมแบบบูรณาการ ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเป็นระบบ , จัดหาทุนสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือครูในอัตราดอกบี้ยต่ำ โดยรัฐสนับสนุนทุกกระบวนการ และใช้กระบวนการของสหกรณ์ออมทรัพย์หรือกระบวนการอื่น เช่น แนวทางการพัฒนาชีวิตครู เป็นต้น ในการแก้ไขหนี้สินครูทั้งระบบ

โฆษกประจำคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งที่ต้นเหตุ และปลายเหตุ โดยเสนอให้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตครู การจัดสวัสดิการบ้านพัก สวัสดิการยานพาหนะ การพักชำระหนี้ 2 ปี การปรับโครงสร้างเงินเดือนให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน การจัดตั้งธนาคารครูไทย หรือธนาคารเพื่อการศึกษา ซึ่งรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวจะมีการนำไปพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

นอกจากนี้จะจัดให้มีการประชุมสัมมนา ระดมความคิดเห็นเพิ่มติมจากครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด จากสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 4 ภูมิภาค เพื่อสรุปผลการระดมความคิดเห็นให้แล้วเสร็ภายใน 4 วัน โดยเริ่มต้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่นก่อน ก่อนจะสรุปและเสนอคณะอนุกรรมาธิการฯได้พิจารณาต่อไป.

ขอบคุณที่มาและอ่านต่อ : Facebook At_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่