กรมการขนส่งทางบก ยกระดับบริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับบริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ซึ่งเดิมระบบออนไลน์จะรองรับเฉพาะรถที่ไม่ต้องผ่านการตรวจสภาพเท่านั้น ส่งผลให้ที่ผ่านมาเจ้าของรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องเลือกใช้บริการผ่านช่องทางอื่นแทน

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับบริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
กรมการขนส่งทางบก ยกระดับบริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

ปัจจุบัน ขบ. ได้ยกระดับการให้บริการประชาชนครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ ขบ. https://eservice.dlt.go.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax กรณีเป็นรถที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ให้นำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการ ส่วนรถที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีสามารถดำเนินการได้ทันที

บริการออนไลน์ดังกล่าวสามารถชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีรถสิ้นอายุ โดยเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง และรอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน อย่างไรก็ตาม บริการชำระภาษีรถออนไลน์ยังมีข้อจำกัดสำหรับรถบางประเภท เช่น รถติดตั้งแก๊ส และรถที่ค้างชำระภาษีรถเกิน 3 ปี ยังไม่สามารถชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ได้

เนื่องจากการชำระภาษีรถประจำปีล่าช้าจะมีค่าปรับร้อยละหนึ่งต่อเดือน หากไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนรถได้ ทั้งการโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น

จึงขอให้เจ้าของรถดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีให้เรียบร้อยเป็นปัจจุบัน ส่วนเจ้าของรถที่หยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ทุกกรณี ให้แจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ เพื่อไม่ให้มีภาระต้องชำระภาษีประจำปี

ขอบคุณที่มา : Facebook สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่