กลุ่มเยาวชนร้องกรมการปกครองเร่งจัดระเบียบตู้คีบผิดกม.มอมเมาพนัน

กลุ่มเยาวชนร้องกรมการปกครองเร่งจัดระเบียบตู้คีบผิดกม.มอมเมาพนัน

กลุ่มเยาวชนร้องกรมการปกครอง เร่งจัดระเบียบตู้คีบตุ๊กตาผิดกฎหมายหวั่นปูทางเด็กเสพติดพนัน จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบตู้คีบรอเข้าไทยอีกเพียบ พบ 75 ห้างดัง มีมากกว่า 1,500 ตู้ ขณะที่ รองอธิบดีกรมการปกครอง เตรียมเรียกทุกฝ่ายหาทางออก 20 ก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมด้วย นายราเมศร ศรีทับทิม เลขานุการเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กลุ่มนักเรียนนักศึกษากว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ผ่านทาง นายพิริยะ ฉันทดิลก รองอธิบดีกรมการปกครอง ให้เร่งแก้ปัญหาตู้คีบตุ๊กตาที่เข้าข่ายการพนัน หลังสุ่มสำรวจพบว่ามีสูงถึง 1,511 ตู้ ใน 75 ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และกำลังรอนำเข้าประเทศอีกจำนวนมาก

กลุ่มเยาวชนร้องกรมการปกครองเร่งจัดระเบียบตู้คีบผิดกม.มอมเมาพนัน 2

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ตู้คีบตุ๊กตาแท้จริงแล้วคือการพนัน ตาม พ.ร.บ.การพนัน 2478 บัญชี ข.หมายเลข 28 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีคำพิพากษาของศาลฎีการะบุชัดเจนว่า ตู้คีบเป็นการพนัน รวมถึงกรมการปกครองมีนโยบายไม่ให้เจ้าพนักงานออกใบอนุญาตให้มีการเล่นการพนันดังกล่าวโดยเด็ดขาด ตามหนังสือ กระทรวงมหาดไทย (ที่ มท0307.2/ว3810) ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 49

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้มงวดกวดขันลงพื้นที่จับกุมตู้คีบตุ๊กตา เดือน มิ.ย. 62 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ ตลาดและจุดต่างๆ ในชุมชน ยังสามารถพบเห็นตู้คีบตุ๊กตาเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ในเมื่อไม่มีการออกใบอนุญาตแล้วสิ่งที่ปรากฏอยู่ทั่วไปในปัจจุบันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตั้งแต่การนำเข้ามาจนถึงการประกอบการในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจ 92 ห้างใน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ลำปาง น่าน พะเยา สุรินทร์ อุบลราชธานี สระบุรี และพัทลุง ระหว่างวันที่ 7–29 ธ.ค. 62 พบ 75 ห้าง มีตู้คีบตุ๊กตาและตู้อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น ตู้คีบ ตู้ดัน ตู้ตัก เปิดให้บริการทั้งหมด 1,511 ตู้ เฉพาะในกรุงเทพฯ พบ 49 ห้าง จำนวน 1,077 ตู้

โดยห้างที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ 75 ตู้, ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์74 ตู้, ห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ74 ตู้, ห้างเมเจอร์ ปิ่นเกล้า61 ตู้, ห้างบิ๊กซี รามคำแหง58 ตู้, และห้างเซ็นทรัล พระราม3 จำนวน 57 ตู้ เปิดให้บริการอย่างโจ่งแจ้งในโซนเครื่องเล่น โรงภาพยนตร์ ศูนย์อาหาร หน้าห้องน้ำ และทางเข้าออกห้างสรรพสินค้า เป็นจุดที่เข้าถึงได้โดยง่าย พบมีเด็กและเยาวชนเข้าเล่นเป็นจำนวนมาก และไม่พบใบอนุญาต

นอกจากนี้ยังพบข้อความเพื่อบิดเบือนความจริง เช่น ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ, สินค้านี้ไม่ใช่เครื่องมือการพนัน มีไว้เพื่อการขายสินค้าเท่านั้น นอกจากนี้ทางเครือข่ายฯ ได้สอบถามความเห็นประชาชน อายุ 15 ปีขึ้นไป ที่เข้าใช้บริการในห้างสรรพสินค้า เกี่ยวกับตู้คีบตุ๊กตา จำนวน 1,004 คน กว่าร้อยละ 80 เคยมีประสบการณ์การเล่นตู้คีบตุ๊กตา และเกินกว่าครึ่งไม่ทราบว่าตู้คีบตุ๊กตาเป็นการพนัน

“เครือข่ายฯ ทราบมาว่ามีตู้ลักษณะดังกล่าวอีกจำนวนมาก ที่เตรียมทะลักเข้ามาในประเทศไทย ปัจจุบันมีการกักรอไว้ที่ด่านศุลกากร ทำให้น่าเป็นห่วงว่าหากไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ตู้คีบตุ๊กตาที่เข้าข่ายการพนัน จะเล็ดรอดออกมาบ่มเพาะค่านิยมที่หลงใหลการพนันให้กับเด็กๆ และเยาวชน สุ่มเสี่ยงเกิดนักพนันหน้าใหม่และกลายเป็นปัญหาสังคมในที่สุด” นายณัฐพงศ์ กล่าว

ขณะที่ นายราเมศร กล่าวว่า ในกรณีนี้เครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปพิจารณาดังนี้

1.ขอยืนยันว่าเรามิได้ต้องการให้ตู้คีบตุ๊กตาหมดไปจากสังคมไทย แต่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับตู้แบบนี้ควรยอมรับเสียทีว่านี่คือการพนันรูปแบบหนึ่งที่ต้องทำตามกฎหมาย หัวใจสำคัญคือการป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน มิให้เป็นประตูบ่มเพาะไปสู่นักพนันหน้าใหม่ ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการฯ และห้างสรรพสินค้าควรตระหนัก

2.ขอให้กรมการปกครอง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาตู้คีบตุ๊กตา รวมไปถึงเชิญสมาคมห้างค้าปลีก สมาคมผู้ประกอบการสวนสนุกในห้าง ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าที่อนุญาตให้ใช้สถานที่ตั้งตู้คีบตุ๊กตา มาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

3.มีคำสั่งยุติการประกอบการลักษณะดังกล่าวนี้ไว้ก่อน จนกว่าจะกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์วิธีการที่เป็นรูปธรรม มีการกำหนดช่วงเวลาเพื่อขออนุญาตตามขั้นตอนเพราะเป็นการพนัน บัญชี ข.และหลังจากนั้นขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ ลงพื้นที่กวดขันจับกุมการเปิดให้มีการเล่นพนันเครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องจักรกลตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน ที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์กฎหมาย และร่วมสร้างค่านิยมแก่เด็ก เยาวชน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเล่นการพนันทุกประเภท

ทั้งนี้เครือข่ายฯ ขอชื่นชมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญและมีประสิทธิภาพ และขอเป็นกำลังใจในการทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป โดยเฉพาะประเด็นที่กระทบต่อเด็กและเยาวชน อนาคตของชาติ

นายธนาคม กล่าวว่า ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ทางกรมได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ สมาคมผู้ค้าปลีก สมาคมผู้ประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า ตลอดจนผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องตู้คีบต่างๆ ตู้เครื่องกล ตู้หยอดเหรียญ รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชน เครือข่ายเยาวชน เข้าหารือเพื่อแก้ไขปัญหาตามข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและยั่งยืน

ทั้งนี้ในส่วนของศุลกากรที่จะนำเข้าตู้คีบ คงต้องดูในรายละเอียดอย่างรอบคอบอีกครั้ง ท้ายนี้อยากฝากถึงผู้ประกอบการตู้คีบ ให้คำนึงถึงจริยธรรมในการทำธุรกิจ คำนึงผลเสียที่จะกระทบกับเด็กและเยาวชนด้วย

ขอบคุณที่มาของข่าวและอ่านต่อได้ที่ : เดลินิวส์ออนไลน์ 18 กุมภาพันธ์ 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่