เปิด 16 ข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีเคอร์ฟิว ไม่ห้ามออกจากบ้าน แต่ห้ามเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีโรคประจำตัว
“วิษณุ”ย้ำ ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจประกาศเคอร์ฟิว แบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะประเมินและแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า
มี 16 ข้อที่ห้ามทำ ให้ทำ และควรทำ โดยยืนยัน ไม่มีการประกาสเคอร์ฟิว ไม่ได้ห้ามออกจากบ้าน แต่ห้ามเฉพาะผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ผู้มีโรคประจำตัว เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ห้ามออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น ยังไม่ปิดประเทศเพราะยังให้คนไทยเข้ามาได้ แต่ปิดประเทศสำหรับชาวต่างชาติ ยังไม่ปิดเมือง สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ แต่ยากขึ้นเพราะจะมีด่าน ส่วนร้านอาหารเปิดได้แบบซื้อกลับบ้าน ห้างสรรพสินค้าขายเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตสิ่งของจำเป็น ส่วนราชการโรงพยาบาล สถานีตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ยังเปิดปกติ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้
ข้อ 1.การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่หรือสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 ตามที่กำหนดในมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มีนาคม 2563 หรือตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ประกาศหรือสั่ง ไว้ก่อนนี้
ข้อ 2 การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดออกคำสั่ง ตามกฏหมายโรคติดต่อ พิจารณาสั่งปิดสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 เป็นการชั่วคราวแต่อย่างน้อยให้สั่งปิดสถานที่ดังต่อไปนี้
- สนามมวยสนามกีฬาสนามแข่งขันสนามเด็กเล่นสนามม้าในทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
- ผับสถานบริการสถานที่แสดงมหรสพสถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะสถานประกอบการอาบอบนวดและนวดแผนโบราณสปาสถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) และปริมณฑลได้แก่จังหวัดนนทบุรีปทุมธานีนครปฐมสมุทรปราการและสมุทรสาครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
- สถานที่อื่นนอกจากนี้เช่นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติพิพิธภัณฑสถานห้องสมุดสาธารณะศาสนสถานสถานีขนส่งหรือโดยสารตลาดห้างสรรพสินค้าให้พิจารณาโดยสังปิดเฉพาะส่วนหรือทั้งหมดและอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครแล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ให้คำนึงถึงโอกาสเสี่ยงต่อการติดต่อโรคความจำเป็นของประชาชนในการจัดหาสิ่งอุปโภคบริโภคและการเดินทางโดยเฉพาะในระยะแรกซึ่งต้องมีการเตรียมตัวหรือปรับตัวในกรณียังไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่ใดให้เจ้าของหรือผู้ดูแลสถานที่นั้นจัดให้มีมาตรการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
ข้อ 3. การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ในการใช้ยานพาหนะไม่ว่าจะเป็นอากาศยาน เรือ รถยนต์หรือพาหนะอื่นใดหรือในการใช้เส้นทางคมนาคมไม่ว่าทางอากาศทางน้ำหรือทางบกเพื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปิดช่องทางเข้าออกด่านจุดผ่านแดนหรือจุดผ่อนปรนตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อและกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง สำหรับผู้โดยสารหรือผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเว้นแต่
- เป็นกรณีหรือผู้มีเหตุยกเว้นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนดหรืออนุญาตตามความจำเป็นโดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
- เป็นผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็นแต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
- เป็นบุคคลในคณะทูตคณะกงสุลองค์การระหว่างประเทศหรือผู้แทนรัฐบาลที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทยหรือเป็นบุคคลหรือหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็นตลอดจนบุคคลในครอบครัวของบุคคลดังกล่าวโดยติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้โดยแสดงเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
- เป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ทำงานในราชอาณาจักร
- เป็นผู้มีสัญชาติไทยในกรณีเช่นนี้ให้ติดต่อสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่พำนักเพื่อออกหนังสือรับรองหรือมีใบรับรองแพทย์และปฏิบัติตามวรรคสองโดยให้สถานทูตไทยและสถานกงสุลไทยในต่างประเทศให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสัญชาติไทยในการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร
- บุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly Health Certificate) ซึ่งได้รับการตรวจรับรองหรือออกให้มีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทางและเมื่อเข้ามาในราชอาณาจักรแล้วต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
ข้อ 4.การห้ามกักตุนสินค้า ห้ามผู้ใดกักตุนสินค้าซึ่งเป็นยาเวชภัณฑ์อาหารน้ำดื่มหรือสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือไม่ก็ตามสำหรับกรณีที่เป็นสินค้าควบคุมการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพปริมาณการผลิตการควบคุมราคาจำหน่ายและการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงและไม่เกิดภาวะขาดแคลนหรือเดือดร้อนเกินสมควรโดยให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตรวจและควบคุมดูแลผู้ประกอบการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ข้อ 5.การห้ามชุมนุม ห้ามมิให้มีการชุมนุมการทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยทั้งนี้ภายในเขตพื้นที่ที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงประกาศกำหนด
ข้อ 6.การเสนอข่าวห้ามการเสนอข่าว หรือทำให้แพร่หลายทางสื่อต่างๆซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) อันไม่เป็นความจริงและอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ในกรณีเช่นนี้ให้เจ้าหน้าที่เตือนให้ระงับหรือสั่งให้แก้ไขข่าวหรือหากเป็นกรณีที่มีผลกระทบรุนแรงให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นศูนย์กลางจัดให้มีการแถลงหรือชี้แจงข่าว ณ ทำเนียบรัฐบาลเพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเป็นประจำและต่อเนื่องในกรณีจำเป็นจะขอความร่วมมือจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจด้วยก็ได้
ข้อ 7.มาตรการเตรียมรับสถานการณ์
- ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบหากมีปัญหาให้รายงานกระทรวงมหาดไทย
- ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งกำหนดและประชาสัมพันธ์เผยแพร่มาตรการเพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากการบังคับใช้มาตรการของรัฐต่อประชาชนตามหน้าที่และอำนาจโดยพิจารณาใช้งบประมาณของตนเองเป็นอันดับแรกในกรณีไม่อาจดำเนินการได้ให้เสนอหรือขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล
- ให้โรงพยาบาลสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจในการป้องกันและดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งภาครัฐและเอกชนจัดหายาเวชภัณฑ์เครื่องมือในการตรวจโรคเครื่องช่วยในการหายใจและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นให้เพียงพอตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือแนะนำทั้งนี้ให้รวมถึงการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์จากแหล่งต่าง ๆ และการเตรียมสถานที่กักกันสถานที่คุมไว้สังเกตหรือเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มจำนวนขึ้น โดยขอความร่วมมือดัดแปลงสถานที่ต่าง ๆ เช่นโรงแรมโรงเรียนมหาวิทยาลัยหอประชุมสถานที่ปฏิบัติธรรมศาลาวัดอาคารของเอกชนที่ยังไม่ได้ใช้งานหรือสถานที่ราชการสถานที่เอกชนอื่น ๆ เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว
- ในการกักกันตัวเองไว้สังเกตอาการตามคำสั่งหรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่หรือเป็นผู้เดินทางข้ามเขตมาจากพื้นที่จังหวัดอื่นให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดตั้งขึ้น หรืออาสาสมัครที่ปฏิบัติงานให้แก่ทางราชการสามารถเข้าตรวจสอบการเฝ้าระวังหรือความเข้มงวดจริงจังในการกักกันตนเอง และให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องได้ในกรณีนี้อาจขอความร่วมมือจากประชาชนในท้องถิ่นให้ช่วยตรวจสอบด้วยก็ได้
ข้อ 8 มาตรการพึงปฏิบัติสำหรับบุคคลบางประเภทให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่ายดังต่อไปนี้ อยู่ในเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตนเพื่อป้องกันตนเอง จากการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
- กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่นโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองโรคในระบบทางเดินหายใจโรคภูมิแพ้ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำตามธรรมชาติของโรคและด้วยยาที่ใช้รักษา
- กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ลงมา ทั้งนี้เว้นแต่บุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อการพบแพทย์การรักษาพยาบาลการปฏิบัติหน้าที่แพทย์พยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์การปฏิบัติงานหรือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันการเงิน ตู้เอทีเอ็ม การสื่อสารมวลชนโทรคมนาคมและไปรษณีย์การให้บริการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า เพื่อการบริโภคอุปโภคการจัดหาและซื้อขายอาหาร การติดต่อด้านคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานอัยการหรือศาลตามความจำเป็นหรือการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดประกาศหรือคำสั่งต่าง ๆ ของทางราชการหรือมีเหตุจำเป็นอื่น ๆ
ข้อ 9.มาตรการเกี่ยวกับการออกนอกราชอาณาจักรให้กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้มงวดในการตรวจลงตราหรือออกวีซ่าหรืออนุญาตให้ชาวต่างประเทศซึ่งมิได้มีกิจการงานปกติหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรยังคงอยู่ในราชอาณาจักรบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยหรือไม่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรซึ่งประสงค์จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจะได้รับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
ข้อ 10.มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพมหานคร ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเวรยามหรือตั้งจุดตรวจตามถนนเส้นทางคมนาคมสถานีขนส่งหรือโดยสารเพื่อป้องกันอุบัติเหตุการก่ออาชญากรรมและการรวมกลุ่มชุมนุมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคหรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนหรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรคและหากพบเห็นการกระทำดังกล่าวให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ในจังหวัดอื่นนอกกรุงเทพมหานครให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาตามความเหมาะสมแต่อย่างน้อยให้มีมาตรการตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดดูแลการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดเพื่อจัดระเบียบการเดินทางการจราจรการเฝ้าระวัง หรือสังเกตอาการผู้เดินทางและพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามข้อนี้ผู้รับผิดชอบตามวรรคหนึ่งและวรรคสองอาจขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเจ้าหน้าที่กอ. รมน. หรืออาสาสมัครเพื่อปฏิบัติการร่วมกันก็ได้และหากพบเห็นการกระทำดังกล่าวให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ข้อ 11.มาตรการป้องกันโรคให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อใช้ปฏิบัติเป็นการทั่วไปหรือใช้ในกรณีผ่อนผันหรือยกเว้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ดังนี้
- ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรมและให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
- ให้เจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการผู้ร่วมงานผู้ร่วมกิจกรรมลูกจ้างผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
- ล้างมือด้วยสบู่แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
- เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
- ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็นโดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกันเจ้าหน้าที่อาจเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และนำมาตรการคุมไว้สังเกตหรือมาตรการกักกันตัวอย่างน้อย 14 วันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อมาใช้แก่บุคคลบางประเภทหรือบางคนได้ตามความจำเป็น
ข้อ 12 นโยบายการยังคงให้เปิดสถานที่ทำการรัฐบาล มีนโยบายให้โรงพยาบาล สถานพยาบาลคลินิกแพทย์ รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารในส่วนซึ่งมิใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการและแผงจำหน่ายอาหาร ซึ่งผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่โรงแรม ในส่วนซึ่งเป็นที่พักอาศัยและร้านอาหารร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กร้านค้าทั่วไปห้างสรรพสินค้า ในส่วนซึ่งเป็นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตแผนกขายยาแผนกอาหารแผนกสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
โรงงานธุรกิจหลักทรัพย์ธุรกรรมการเงินธนาคารตู้เอทีเอ็มตลาดและตลาดนัด ในส่วนซึ่งจำหน่ายอาหารสดอาหารแห้งอาหารปรุงสำเร็จอาหารสัตว์เวชภัณฑ์และสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็น สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้มเชื้อเพลิงปั้มน้ำมันปั้มแก๊สการให้บริการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้ารวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online) ยังคงประกอบกิจการต่อไปได้ตามปกติเพื่อความสะดวกและความเป็นอยู่ตามปกติของประชาชนมิให้ขาดแคลนหรือเดือดร้อนยากลำบากเกินควรโดยให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
สถานที่ราชการรัฐวิสาหกิจหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐยังคงเปิดดำเนินการ ในวันและเวลาราชการตามปกติ เว้นแต่ที่มีประกาศให้ปิดหรืองดดำเนินการไปก่อนแล้วเช่น สถาบันการศึกษา
ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและมิให้ประชาชนต้องเสียประโยชน์หรือละเมิดกฎหมายที่มีกำหนดเวลาให้ปฏิบัติแต่ควรอำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติงาน เช่น การจัดเหลื่อมเวลาทำงานและพักเที่ยงการทำงานนอกสถานที่ปกติและให้เพิ่มบริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
เช่น การจัดประชุมสื่อสารทางไกลการให้บริการด้วยการสื่อสารแบบดิจิทัล การงดเว้นการกำหนดให้ประชาชนต้องมาแสดงตนหรือยกเว้นขยายเวลางดหรือลดหย่อนค่าธรรมเนียม ภายใต้กรอบของกฎหมายให้ภาคธุรกิจร้านค้าที่เปิดบริการและสถานที่ราชการที่เปิดทำการวางมาตรการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อหรือใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค
ข้อ 13 คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลานี้. ประชาชนพึงงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในระยะนี้โดยไม่จำเป็นและควรพักหรือทำงานอยู่ ณ ที่พำนักของตนกรณีจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่ต้องรับการตรวจคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวมารับการตรวจอาการหรือกักกันตัว
ข้อ 14 คำแนะนำในการจัดกิจกรรมอื่น ๆ การจัดกิจกรรมหรือพิธีการทางสังคมตามประเพณีนิยมเช่นพิธีมงคลสมรสพิธี เซ่นไหว้บรรพบุรุษพิธีบำเพ็ญกุศลพิธีศพพิธีสงกรานต์หรือกิจกรรมภายในครอบครัวตลอดจนกิจกรรม หรืองานพิธีที่ทางราชการจัดขึ้นหรือเป็นไปตามหมายกำหนดการของทางราชการยังคงจัดได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
ข้อ 15 โทษผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฏหมายทั้งปรับและจำคุก
ข้อ 16 การใช้บังคับทั่วราชอาณาจักร จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามกฏหมาย ไม่ได้ยึดอำนาจมาจากรัฐมนตรี แต่สวมอำนาจเพื่อการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ให้ปลัดกระทรวงเป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ส่วนรัฐมนตรียังปฏิบัติการได้เช่นเดิม ขณะที่การห้ามชุมนุม และการห้ามเสนอข่าวบิดเบือน ไม่ใช่การละเมิดสิทธิเสรีภาพ แต่ให้ระวังเฉพาะโรคโควิด-19
ขอบคุณที่มา : TheReporters