กมว.รับรองหลักเกณฑ์ทดสอบตั๋วครู ต้องสอบผ่าน 3 หมวด เก็บคะแนนได้ 3 ปี
บอร์ดกมว.รับรองร่างประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและการประเมินสมรรถนะวิชาชีพครู เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู พร้อม ถก แก้จรรยาบรรณของวิชาชีพ 2563
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ว่า ที่ประชุมได้รับรองร่างประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและการประเมินสมรรถนะวิชาชีพครู โดยในหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้กำหนดความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู 5 กลุ่มวิชาที่จะต้องสอบ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล วิชาชีพครู และวิชาเอก ซึ่งในหมวดวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษหากมีสถาบันการสอนที่คุรุสภาให้การรับรองนักศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสอบตอนจบการศึกษา โดยสามารถไปสอบระหว่างเรียนได้
ส่วนการปฎิบัติการสอนและการจัดประสบการณ์วิชาชีพมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ประเมินการปฎิบัติงานของนักศึกษาตามแบบฟอร์มที่คุรุสภากำหนด พร้อมกับส่งหลักเกณฑ์ระบุว่านักศึกษาครูผ่านเกณฑ์ด้วยมาตรฐานในข้อไหนอย่างไรบ้าง ดังนั้นการทดสอบดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มวิชาความรู้ และกลุ่มปฎิบัติการสอน ส่วนค่าใช้จ่ายในการสอบยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นนักศึกษาจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการสอนส่วนหนึ่งแน่นอน ซึ่งคุรุสภาเองจะเก็บค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างภาระให้แก่นักศึกษา
ประธาน กมว.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนของการสอบแต่ละวิชา เช่น กำหนดการสอบทั้งหมด 5 วิชา หากนักศึกษาสอบวิชาไหนไม่ผ่านก็แก้เฉพาะวิชานั้นและวิชาที่ผ่านการทดสอบสามารถเก็บคะแนนไว้ได้ถึง 3 ปี เป็นต้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการทดสอบให้แก่นักศึกษา โดยในระยะเวลา 1 ปีคุรุสภาจะกำหนดให้มีการทดสอบ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเดือนต.ค.สำหรับนักศึกษาที่ผ่านการฝึกปฎิบัติการสอนเสร็จสิ้นแล้ว และหากนักศึกษาทดสอบไม่ผ่านก็สามารถไปทดสอบอีกครั้งช่วงจบการศึกษาได้ ขณะเดียวกันผู้ที่เรียนในหลักสูตรประกาศนียบัณฑิต (ป.บัณฑิต) ก็จะสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูในเดือน ต.ค.ปีนี้ด้วยเช่นกัน
“สำหรับความคืบหน้าการจัดทำผังข้อสอบ หรือ Test Blueprint ขณะนี้ได้มีการขอรายชื่ออาจารย์ในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ของทุกมหาวิทยาลัยมาร่วมจัดทำ Test Blueprint ในวันที่ 25-26 ก.พ.นี้ ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปจะมีการจัดทำแนวทางข้อสอบดังกล่าวเสนอให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ไปใช้ในการออกข้อสอบต่อไป โดยในการทดสอบครั้งแรกจะจัดสอบในรูปแบบกระดาษ ส่วนจะพัฒนาไปสู่การทดสอบในรูปแบบออนไลน์หรือไม่นั้น คงต้องดูความพร้อมของข้อสอบก่อน” รศ.ดร.เอกชัย กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการเสนอร่างจรรยาบรรณของวิชาชีพ 2563 ซึ่งปรับจากจรรยาบรรณวิชาชีพเดิม ที่มีการกำหนดการประพฤติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพไว้นานแล้ว โดยการปรับใหม่จะครอบคลุมในเรื่องจรรยาบรรณต่อตนเอง ต่อวิชาชีพ ต่อผู้รับบริการ ต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ และต่อสังคม เช่น การรักษาข้อมูลความลับของผู้รับบริการ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอกสาร ภาพ วีดิทัศน์หรือเสียงของผู้บริการ จะต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเข้าถึง แก้ไข ใช้เผยแพร่ ดัดแปลงข้อมูลหรือการกระทำใดๆ ที่เป็นละเมิดหรือผิดกฎหมาย หรือสร้างคสามเสื่อมเสียต่อผู้รับบริการ ซึ่งในข้อนี้หากมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ หรือคลิปเสียงของเด็กก็จะมีความผิดทางจรรยาบรรณทันที ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป
ที่มาเนื้อหาข่าว : เดลินิวส์ออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2563