ซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการกรอกเลขประจําตัวประชาชน กรณีนักเรียนไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย

ซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการกรอกเลขประจําตัวประชาชน กรณีนักเรียนไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย ในเอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด

ซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการกรอกเลขประจําตัวประชาชน กรณีนักเรียนไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย
ซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการกรอกเลขประจําตัวประชาชน กรณีนักเรียนไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย

เพื่อให้สถานศึกษาสามารถจัดทําเอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด ได้แก่ ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) และแบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.๓) สอดคล้องกับประกาศ กระทรวงศึกษาธิการดังกล่าว สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงขอซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับ การกรอกเลขประจําตัวประชาชน กรณีนักเรียนไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย ในเอกสาร หลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นต้นไป

ดังนี้

๑. การกรอกเลขประจําตัวประชาชนในระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) และแบบรายงาน ผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ให้กรอกเลขประจําตัวประชาชนจํานวน ๑๓ หลัก ให้ถูกต้องตรงตามหลักฐาน ทางทะเบียนราษฎร กรณีนักเรียนไม่มีเลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก ให้ใช้รหัสประจําตัวผู้เรียนที่มีตัวอักษร G ในระบบกําหนดรหัสประจําตัวผู้เรียนเพื่อเข้ารับบริการการศึกษาสําหรับผู้ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ระบบ G Code) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด โดยสามารถดาวน์โหลดคู่มือการใช้งานระบบกําหนดรหัส ประจําตัวผู้เรียนเพื่อเข้ารับบริการการศึกษาสําหรับผู้ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ระบบ G Code) www.gcode.moe.go.th

๒. กรณีนักเรียนที่ใช้รหัสประจําตัวผู้เรียนที่มีตัวอักษร G ตามการกําหนดรหัสของ กระทรวงศึกษาธิการ ย้ายสถานศึกษาหรือเข้าเรียนในสถานศึกษาใหม่ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และยังไม่ได้ เลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ให้สถานศึกษาใช้รหัสประจําตัว ผู้เรียนที่มีตัวอักษร G เดิม ตามระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.) ที่นํามาสมัคร จนกว่าจะมีก เปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ หากสถานศึกษาใดได้ดําเนินการใช้รหัสประจําตัวผู้เรียนที่มีตัวอักษร G ตามการกําหนด รหัสของกระทรวงศึกษาธิการ ลงในเอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด ก่อนปีการศึกษา ๒๕๖๓ ไปก่อนแล้ว ให้ถือว่า มีผลใช้บังคับได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่