"ณัฏฐพล" ลุยแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตครูทั่วประเทศ เล็งลดโรงเรียนขนาดเล็กจาก 30,000 แห่ง ลดลงให้เหลือ 15,000 แห่ง

“ณัฏฐพล” ลุยแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตครูทั่วประเทศ เล็งลดโรงเรียนขนาดเล็กจาก 30,000 แห่ง ลดลงให้เหลือ 15,000 แห่ง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ  เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้ประกาศเปิดโครงการเรื่องนี้ถึงหูครูตั้นแน่สัญจร  โดยเป็นการเปิดรับสมัครตัวแทนครูภูมิภาค ภาคละ 50 คน

เพื่อร่วมพูดคุยถึงปัญหาของครูในปัจจุบัน และได้ทดลองสัญจรครั้งแรกพบตัวแทนครูในภาคกลางไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ที่โรงเรียนคุรุประชาสรรค์ จ.ชัยนาทนั้น ซึ่งปัญหาที่ได้รับฟังจากตัวแทนคุณครูทั้งในภาคกลางและภาคอีสาน ส่วนใหญ่มีความสอดคล้อง และตรงกับข้อมูลที่ได้มีโอกาสรับรู้จากการเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหลายเรื่องได้วางแผนหาแนวทางการแก้ปัญหาไว้อยู่แล้ว โดยตนมีความตั้งใจที่ต้องการจะรับฟังเสียงสะท้อน และข้อเสนอแนะ เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ได้ โดยเฉพาะการวางรากฐานทางการศึกษา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำเนินนโยบายต่างๆ ให้มีความต่อเนื่อง เพราะข้าราชการครูถือเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษา

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า  สำหรับปัญหาของครูที่สะท้อนมาถึงตนพบว่าส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตครู  ดังนั้นตนพร้อมที่จะนำปัญหาเหล่านั้นมาปลดล็อกแก้ไขให้ โดยตนและคณะทำงาน ได้วางแนวทางการแก้ปัญหาไว้บ้างแล้ว แต่ครูก็ต้องพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าและปรับแนวทางการทำงานร่วมกันกับตน  อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เตรียมเรื่องการเพิ่มสมรรถนะของครู ซึ่งได้เปิดแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (DEEP-Digital Education Excellence Platform) เพื่อบรรจุหลักสูตรอบรมพัฒนาครูแบบออนไลน์ ให้ครูได้ใช้เวลาว่างของตนเองในการพัฒนาสมรรถนะ โดยเป้าหมายแรกเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัล  และภาษาอังกฤษ

“สำหรับปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เพียงพอนั้น เพราะเราจำเป็นต้องบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพโดยการควบรวมโรงเรียนที่มีอยู่ให้มีจำนวนที่สามารถบริหารจัดการได้ เช่น การจัดการสวัสดิการบ้านพักครู หากสามารถบริหารโรงเรียนขนาดเล็กจำนวน 30,000 แห่ง ลดลงให้เหลือเพียง 15,000 แห่งก็สามารถสร้างบ้านพักครูได้ 15,000 แห่งแล้ว เช่นเดียวกับปัญหาการขาดแคลนครู เนื่องจากสัดส่วนครูต่อนักเรียนของประเทศไทยอยู่ที่ 16.5 ต่อ 1 ซึ่งดีที่สุดในโลก แต่ทำไมโรงเรียนใหญ่ๆถึงได้มีนักเรียนอยู่ 40 – 50 คนต่อห้อง ดังนั้นจะต้องบริหารข้อมูลครูให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม”

ขอบคุณที่มาและอ่านต่อ : เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 22 ตุลาคม 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่