มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2565 โดย กระทรวงสาธารณสุข

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่านครับ

Toggle

มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2565 โดย กระทรวงสาธารณสุข

สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อที่เป็นนักเรียนและครู พบว่า เด็กอายุ 0-19 ปี มีการติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 2,674 ราย ร้อยละ 14.15 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทุกกลุ่มอายุ จำนวน 18,892 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย (จากรายงานข้อมูลผู้ป่วยยืนยันประจำวัน กรมควบคุมโรค , 16 เมษายน 2565) ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนและการสอบเพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้มากสุด ได้ทบทวนและพัฒนาปรับปรุงแนวปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาตามมาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2565 เพื่อให้นักเรียน ครู บุคลากร และสถานศึกษา เปิดเรียน On site จัดให้มีการเรียนการสอนที่โรงเรียน มีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และอยู่ได้กับโควิด 19 อย่างปลอดภัย

มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา รองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 โดยมีแนวทาง ดังนี้

แนวทางการเฝ้าระวังในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเรียน On site ด้วยหลักการ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน” ด้วย 3T1V

T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) สถานศึกษาต้องประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน

T : Thai Save Thai (TST) นักเรียน ครู และบุคลากรทางกรศึกษา ประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ

T : Test ตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยงหรือมีอาการ

V : Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก อายุ 5-18 ปี ได้รับวัคซีนโควิด 19- ตามเกณฑ์

มาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด 19 ในสถานศึกษา (6 หลัก 6 เสริม 7 เข้ม)

6 มาตรการหลัก (DMHT-RC)

: เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด

6 มาตรการเสริม (SSET-CQ)

: ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก สำรวจตรวจสอบ กักกันตนเอง

7 มาตรการเข้ม

1. ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผล ผ่าน MOECOVID

2. ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble)

3. จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ

4. อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน

5. แผนเผชิญเหตุ มีการชักซ้อม รวมถึง การเตรียมพร้อม School Isolation

6. ควบคุมดูแลการเดินทางจากข้านไปโรงเรียนให้ปลอดภัยเน้นมาตรการปลอดภัยรถโรงเรียน

7. School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา รองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2565

สำหรับโรงเรียนประจำ เข้มมาตรการ Sandbox Safety Zone in School (SSS) รูปแบบ Sandbox Safety Zone in School สำหรับโรงเรียนประจำ แบ่งเป็น 3 โซน ดังนี้

1. Screening Zone จัดพื้นที่หรือบริเวณให้เป็นจุดคัดกรอง (Screening Zone) ที่เหมาะสม จัดจุด รับ-ส่งสิ่งของ จุดรับส่งอาหาร หรือจุดเสี่ยงอื่น เป็นการจำแนกนักเรียน ครู บุคลากร ผู้ปกครองและผู้มาติดต่อที่เข้ามาในโรงเรียน ไม่ให้ใกล้ชิดกับบุคคลในโชนอื่น รวมถึงจัดให้มีพื้นที่ปฏิบัติงานเฉพาะบุคลากรที่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานในโชนอื่นได้

2. Quarantine Zone จัดพื้นที่หรือบริเวณให้เป็นจุดกักกันและสังเกตอาการ สำหรับนักเรียน ครูและบุคลากรที่ยังต้องสังเกตอาการ หรือยังไม่ทราบสถานะการติดเชื้อเน้นการจัดกิจกรรมแบบSmall Bubble

3. safety Zone จัดเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ ปลอดภัย สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจกิจกรรมแบบปลอดภัย

แนวทางการจัดการ Safety Zone in School

มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2565 โดย กระทรวงสาธารณสุข
มาตรการเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2565 โดย กระทรวงสาธารณสุข

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ

เรียนในพื้นที่สถานศึกษา (On-Site) ตามปกติ ทำตามมาตรการ universal prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST) เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้อง ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

  • จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรม ใน Quarantine Zone ตามมาตรการ Sandbox Safety Zone in School เป็นเวลา 5 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน

เข้มมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School

– การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 – 6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อและตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณีนักเรียนได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำในปัจจุบันและไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน ให้ตรวจ ATK ช้ำในวันที่5 หรือมีอาการพร้อมแยกกักกัน ให้สังเกตอาการครบ 10 วัน พร้อมปฏิบัติตัวตามมาตรการขั้นสูงสุด

– สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ

– แยกกักตัวที่โรงเรียน (School Isolation) ปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข (กรณีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยให้จัดการเรียนการสอนได้ตามเหมาะสม) โดยปฏิบัติตาม UP-DMHTA อย่างเคร่งครัด

– ติดต่อ 1330 สปสช. ต่อ 14 หรือหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ ตามระบบอนามัยโรงเรียน

– ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข

– พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดทำ School Isolation ตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School

– สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร งดกิจกรรมกรรม รวมกลุ่ม เน้นการระบายอากาศ และ กำกับติดตาม มาตรการส่วนบุคคลขั้นสูงสุด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย

– ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศีกษาตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข และเปิดเรียนตามปกติ

สำหรับโรงเรียนไป-กลับ

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ

เรียนในพื้นที่สถานศึกษา (On-Site) ตามปกติ ทำตามมาตรการ universal prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST) จัดระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องไม่น้อยกว่า 1เมตร

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

แยกกักกันที่บ้าน หรือสถานที่ตามคำแนะนำของหน่วยบริการสาธารณสุข ตรวจคัดกรองหาเชื้อทันที่ถ้ามีอาการ และให้ตรวจครั้งที่1 ในวันที่ 5 6หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณี นักเรียนได้รับวัคชีนครบตามคำแนะนำในปัจจุบันและไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน ให้ตรวจ ATK ช้ำในวันที่5 หรือ มีอาการพร้อมแยกกักกัน ให้สังเกตอาการครบ 10 วัน พร้อมปฏิบัติตัวตามมาตรการขั้นสูงสุด สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน

กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ

– แยกกักตัวที่บ้าน ( Home Isolation) หรือตามความเห็นชอบของสถานบริการด้านสาธารณสุข

– ติดต่อ 1330 สปสช. ต่อ 14 หรือหน่วยบริการสาธารณสุข

– ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข

– พิจารณาจัดทำ School Isolation ตามความเหมาะสม โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบ และปฏิบัติตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School (SSS)

– สถานศึกษาจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ

– ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเปิดเรียนตามปกติ

หมายเหตุ

การทำความสะอาด

เนื่องจากโคโรนาไวสสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน 2 ชั่วโมง ถึง 9 วัน หลักการในการทำลายเชื้อจะต้องใช้ในปริมาณที่สามารถฆ่าชื้อได้ในเวลาสั้น องค์การอนามัยโลกแนะนำสารที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ภายในระยะเวลา 1 นาที ได้แก่ แอลกอฮอล์ 62-70% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ 0.5%

มาตรการความปลอดภัยในการสอบ กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้ติดเชื้อโควิด 19 สถานที่สอบ

สถานที่จัดสอบ

  • ประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียนในการคัดกรองและให้คำแนะนำด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด
  • จัดให้มีพื้นที่แยกสำหรับการจัดการสอบเป็นสัดส่วน แยกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด 19เน้นการระบายอากาศที่ดี จัดที่นั่งสอบ ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
  • กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำหรือไม่มีความเสี่ยง จัดการสอบตามมาตรการเดิม สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นที่นั่งสอบ ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

ผู้เข้าสอบ

  • เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
  • ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อน และหลังการเข้าสอบ งดการพูดคุย เว้นระยะห่าง
  • การเดินทางไปสนามสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยสถานที่สอบหน่วยบริการสาธารณสุข กรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัว

ผู้คุมสอบ

  • ปฏิบัติการคุมสอบตามมาตรฐานการป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากอนามัย
  • ใช้เวลาในการคุมสอบในห้องสอบให้น้อยที่สุด รวมถึงการวางแผนจัดการสอบให้เหมาะสม

ดาวน์โหลดไฟล์แนบ

ขอบคุณที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่