รมว.ศึกษาธิการ แจงของบฯซ่อมบ้านพักครู

รมว.ศึกษาธิการ แจงของบฯซ่อมบ้านพักครู รมว.ศึกษาธิการ หวังวิกฤตร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ผ่าน พร้อม ถก สำนักงบประมาณอีกรอบปมงบซ่อมบ้านพักครู ย้ำ จำเป็นเพื่อความปลอดภัยครู พร้อมจัดเต็มงบฯปี 64 พัฒนาคุณภาพโรงเรียน

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า เรื่องนี้ตนหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการพิจารณางบประมาณดังกล่าวจะหาทางออกในเรื่องนี้ให้ได้ข้อยุติ เพราะแน่นอนว่าหากเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาจะส่งผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณไปสู่การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ล่าช้าอย่างแน่นอนและทำใหการทำงานค่อนข้างลำบากในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่เดือนที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณ 2563  โดยตนเข้าใจว่าขณะนี้หลายโครงการของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังต้องรอเงินงบประมาณมาใช้ในการขับเคลื่อน รวมถึงงบประมาณที่ใช้จัดจ้างครูธุรการ ดังนั้นเชื่อว่าทุกฝ่ายจะหาทางออกได้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศอย่างแน่นอน

ต่อข้อถามว่า ในการจัดทำคำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำคำของบประมาณในของซ่อมแซมบ้านพักครูด้วยแต่โดนสำนักงบประมาณตัดออกทั้งๆที่เป็นนโยบายของ รมว.ศธ.ที่ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจและสร้างความปลอดภัยให้แก่ข้าราชการครูนั้น รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ตนจะคุยกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง เพื่อชี้แจงให้รับทราบถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ โดยเฉพาะบ้านพักครูที่ไม่มีห้องน้ำอยู่ในบ้าน เพราะสร้างความไม่ปลอดภัยให้แก่ครูผู้หญิง ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สร้างขวัญและกำลังใจและความปลอดภัยให้แก่ครูทุกคน แต่ระหว่างนี้ที่งบประมาณยังไม่ลงตัวสพฐ.ได้ใช้งบเหลือจ่ายจากงบจัดซื้อจ้างในส่วนอื่นๆมาทดแทนไปก่อน

นายณัฏฐพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 นั้น ศธ.ได้วางแผนการจัดทำงบประมาณอย่างเต็มที่ เพราหลังจากที่ตนได้หารือกับทุกฝ่ายทีเกี่ยวข้องจะเป็นปีที่เราต้องใช้งบประมาณมากขึ้น เพื่อบูรณการการศึกษาอย่างเต็มรูปแบบโดยที่จะไม่ได้จัดงบประมาณให้แบบรายหัวเพียงอย่างเดียวอาจจะต้องมาดูในพื้นที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่เป้าหมาย เช่น โรงเรียนที่เป็นพื้นที่กลุ่มเศรษฐกิจพิเศษเป้าหมายของเราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการสอนที่ทันสมัย  ศธ.ก็จะจัดสรรงบประมาณไปให้อย่างเต็มที่ เป็นต้น

ขอบคุณที่มารายละเอียดของข่าว : เดลินิวส์ ออนไลน์ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่