ราชกิจจานุเบกษา ยกเลิกใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ให้ออก หนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ แทน
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
ศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รักษาการเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 139 ตอนพิเศษ 133 ง ได้เผยแพร่ประกาศข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการร้บรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
1) ให้แก้ไขนิยามคำว่า “มาตรฐานความรู้ หมายความว่า มาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ผู้บริหารีสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ ตามข้อบังคับ” ในข้อ 3 แห่งข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการร้บรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2550
2) ให้ยกเลิก “ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน”
3) ให้เพิ่มนิยามคำว่า “หนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า หนังสือที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาออกให้กับผู้ที่ผ่านการรับรองความรู้ตามข้อบังคับนี้
4) ให้ยกเลิก ข้อ 9 แห่งข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการร้บรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ฯ พ.ศ. 2550 แล้วให้ใช้คำต่อไปนี้ “ข้อ 9 ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาออกหนงสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพให้กับผู้ผ่านการรับรองความรู้ตามข้อบังคับนี้”
5) ให้ยกเลิก ข้อ 10 แห่งข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการร้บรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ฯ พ.ศ. 2550 แล้วให้ใช้คำต่อไปนี้ “ข้อ 10 ผู้ผ่านการรับรองความรู้ครบตามมาตรฐานความรู้ จะได้รับหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ”
6) ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนอยู่ก่อนข้อบังคับฉบับนี้มีผลใช้บังคับขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ กรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
6.1) เป็นผู้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาครบ 1 ปีต่อเนื่องแล้ว แต่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไม่ทันภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2563 ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 หรือปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาหลังวันที่ 3 ตุลาคม 2563 ครบ 1 ปีต่อเนื่อง เมื่อได้รับ การรับรองจากสถานศึกษาแล้ว ให้นำหลักฐานการผ่านการรับรองไปขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้
6.2) เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา หรือปฏิบัติการสอนในสถานศึกษายังไม่ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปีต่อเนื่อง ทั้งที่ใบอนุญาตปฏิบัติการสอนหมดอายุ และยังไม่หมดอายุ ให้ขอรับหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาต่อไปจนครบระยะเวลา 1 ปีต่อเนื่อง เมื่อได้รับการรับรองจากสถานศึกษาแล้วให้นำหลักฐานการผ่านการรับรองไปขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้
7) ให้ผู้ได้รับการรับรองความรู้ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ฯ พ.ศ. 2550 หรือเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางการศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองเฉพาะมาตรฐานความรู้ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนอยู่ก่อนข้อบังคับฉบับนี้มีผลใช้บังคับขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ กรณีใดกรณีหนึ่งนั้น ให้ชำระค่าธรรมเนียมการเทียบโอนความรู้ฯ (เฉพาะมาตรฐานความรู้ที่ผ่านการรับรองฯ โดยวิธีการเทียบโอน) ตามอัตราที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมการรับรองความเพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน 2550 มาตรฐานละ 300 บาท เพื่อขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ และเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ตามที่กำหนดในข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
สำหรับเอกสารประกอบคำขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย 1) แบบคำขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ 2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3) สำเนาผลการรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครบ 9 มาตรฐาน (ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548) 4) สำเนาใบอนุญาตปฏิบัติการสอน (กรณีเคยขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน) 5) สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าธรรมเนียมการเทียบโอนความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ (กรณีไม่เคยขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน) และ 6) หลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ – ชื่อสกุล หรือคำนำหน้านาม
ขั้นตอน และวิธีการขอรับหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ให้ผู้ประสงค์ขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ดำเนินการ ดังนี้ กรอกข้อมูลในแบบคำขอฯ ให้ครบถ้วน ชัดเจน และรับรองความถูกต้องของข้อมูล และระบุข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล (e-mail) ที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เนื่องจาก ข้อมูลดังกล่าวจะใช้ในการติดต่อสื่อสารในกรณีเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน รวมถึงการแจ้งผลการพิจารณาออกหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพให้กับผู้ขอหนังสือรับรองความรู้ฯ แล้วยื่นแบบคำขอ และเอกสารหลักฐานผ่านทางไปรษณีย์ ถึงเลขาธิการคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักมาตรฐานวิชาชีพ เลขที่ 128/1 ถนนนครราชสีมา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
การชำระค่าธรรมเนียมการเทียบโอนความรู้ฯ (เฉพาะมาตรฐานความรู้ที่ผ่านการรับรองฯ โดยวิธีการเทียบโอน) สามารถดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้ ผ่านเคาน์เตอร์บริการ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ เข้าบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ เลขที่ 059-6-01254-3 หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT ของธนาคารกรุงไทย
ดาวน์โหลดเอกสารแบบขอรับหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานฯ ประกาศข้อบังคับคุรุสภาฯ และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ksp.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักมาตรฐานวิชาชีพ กลุ่มรับรองความรู้และความชำนาญ เลขที่ 128/1 ถนน นครราชสีมา แขวง ดุสิต เขต ดุสิต กรุงเทพฯ 10300 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2282 4862 หรืออีเมล : www.ksc_unit@ksp.or.th
- ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2550
- ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
………………………………………………
ตัวอย่างแบบหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ
- ตัวอย่างแบบหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ
- แนวทางการขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ สำหรับผู้ได้รับการรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
- แนวทางการชำระเงินค่าธรรมเนียมการเทียบโอน ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู
………………………………………………
ดาวน์โหลดแบบคำขอ
- แบบคำขอหนังสือรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ
- แบบคำขอชำระเงินค่าธรรมเนียมการรับรองความรู้เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 (ค่าเทียบโอนความรู้)
ขอบคุณที่มา : สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา