ศธ.ชง ศบค. !!! ลุ้นเปิดภาคเรียนที่ 2 พ.ย.นี้

ศธ.ชง ศบค. !!! ลุ้นเปิดภาคเรียนที่ 2 พ.ย.นี้ คาดฉีดวัคซีน Fizer ให้เด็กอายุที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ปลายเดือนก.ย.นี้

ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอ 2 ประเด็นให้ศบค.พิจารณา คือ การเปิดภาคเรียนที่ 2 ของนักเรียนระดับอาชีวศึกษา เนื่องจากครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสำนักคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคนแล้ว อีกทั้งนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชนประมาณ 1 ล้านคนได้รับวัคซีนแล้วส่วนหนึ่งตามสูตรการฉีดวัคซีนสลับขั้วระหว่าง Sinovac และAstraZeneca ขณะที่กลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน Fizer ปลายเดือนก.ย.

“ทั้งนี้เราคาดหวังว่าหากแผนการจัดสรรวัคซีนของรัฐบาลที่ได้มีการจัดซื้อวัคซีน Fizer จำนวน 30 ล้านโดสในไตรมาส 4 ปลายเดือนก.ย.นี้ ไม่มีอุปสรรค ก็จะทำให้เด็กอายุที่มีอายุ 12 ปีขึ้นได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้งหมด ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษาคนใดที่ตกหล่นศธ.ก็เร่งให้เข้ารับการวัคซีนให้ครบทุกคนซึ่งหากเป็นไปตามไทม์ไลน์ดังกล่าวเราก็น่าจะมีลุ้นที่จะเปิดภาคเรียนที่ 2 ในเดือนพ.ย.นี้ได้ แต่สำหรับเด็กเล็กปฐมวัยถึงประถมศึกษายังไม่สามารถให้มาเรียนได้ยังต้องใช้มาตรการการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ออนแฮนด์ หรือออนแอร์ไปก่อน” ปลัด ศธ.กล่าว

ดร.สุภัทร กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่สอง คือ มาตรการโครงการตรียมความพร้อมสถานศึกษานำร่อง จัดการเรียนในรูปแบบโรงเรียนประจำ Sandbox Safety Zone in School ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยมาตรการดังกล่าวจะดำเนินการในพื้นที่กลุ่มสีแดงเข้ม ซึ่งมาตรการ Sandbox ในโรงเรียนนั้นได้มีสถานศึกษานำร่องจัดการเรียนไปแล้ว 34 แห่งในโรงเรียนประจำ หรือโรงเรียนกินนอน ซึ่งเท่าที่รับฟังการรายงานข้อมูลยังไม่พบการติดเชื้อเกิดขึ้นจากการดำเนินการมาตรการนี้ ทั้งนี้จากมาตรการ Sandbox Safety Zone in School มีโรงเรียนเอกชนหลายแห่งแจ้งความประสงค์จะใช้มาตรการ Sandbox ซึ่งตนขอชี้แจงว่าหากจะดำเนินการมาตรการนี้โรงเรียนจะต้องมีหอพักภายในโรงเรียนและต้องเป็นการเปิดเรียนในรูปแบบระบบปิดเท่านั้นไม่มีการปล่อยให้เดินทางกลับบ้าน โดยการเป็นโรงเรียนกินนอนจะต้องขออนุญาตการจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเออกชน (สช.) อย่างถูกต้องด้วย.

ขอบคุณที่มา : Facebook At_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่