สพฐ. หนุนฝัน ก.ค.ศ.ใครได้ตั๋วครูถือว่าผ่านภาค ข สอบ ภาค ค โรงเรียนที่รับสมัคร

สพฐ. หนุนฝัน ก.ค.ศ.ใครได้ตั๋วครูถือว่าผ่านภาค ข สอบ ภาค ค โรงเรียนที่รับสมัคร โดยสอบภาค ก ความรู้ทั่วไป ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ถือว่าผ่านภาค ข ส่วนผู้ใช้ก็มีหน้าที่เปิดรับโดยให้มีการมาสอบภาค ค เท่านั้น คือ สอบสัมภาษณ์และสอบสาธิตการสอนในโรงเรียนที่ประกาศรับสมัคร จะทำให้ได้ครูที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) จะมีการปรับเกณฑ์การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งการสอบภาค ก ความรู้ทั่วไป จะเป็นการที่ใช้ข้อสอบมาตรฐานเดียวกับการสอบ ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  ส่วนภาค  ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ก็เทียบเคียงกับมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา และการสอบภาค  ค ได้มีการกำหนด ความเหมาะสมกับตำแหน่งวิชาชีพ และการปฏิบัติงานในสถานศึกษา

โดยมีองค์ประกอบการประเมิน 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกประเมินคุณลักษณะส่วนบุคคล จากการสัมภาษณ์ 25 คะแนน  ส่วนที่สองการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ประเมินจากแฟ้มสะสมงาน 25 คะแนน และส่วนที่สาม ความสามารถด้านการสอน 50 คะแนน ประเมินจากการสาธิตการสอนในห้องเรียน นั้น เป็นแนวทางที่จะทำให้ได้ครูที่เก่งและดีตรงความต้องการจริง ๆ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ในฐานะผู้ใช้ต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ได้ครูมาสอนได้ไวที่สุดและเต็มอัตราที่ต้องการ

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้หลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันพบว่าคนที่สอบผ่านภาค ก จะมีประมาณ6% ซึ่งถ้ามองในภาพรวมจะเห็นว่าคนที่สอบผ่านภาค ก  ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่ต้องการ ขณะที่สาขาอื่นสอบผ่านไม่เพียงพอ ทำให้สพฐ.ต้องมีการจัดสอบอีกครั้งเพื่อรับเพิ่มเติม โดยศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)จะเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่งคิดว่าสอบรอบเพิ่มนี้น่าจะต้องใช้หลักเกณฑ์เดิมที่ก.ค.ศ.กำหนดไปก่อนเพื่อให้ได้ครูทันก่อนเปิดภาคเรียนเดือนพ.ค.นี้ แต่ถ้าก.ค.ศ.ทำหลักเกณฑ์ใหม่ได้ทัน สพฐ.ก็พร้อมที่นำหลักเกณฑ์ที่ปรับใหม่มาใช้ทันที

ดร.อัมพร กล่าวว่า สำหรับการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกครูผู้ช่วยที่จะให้ไปสอบภาค ก กับทาง ก.พ. เนื่องจากเมื่อมีการวิเคราะห์ในเนื้อหาข้อสอบภาค ก ทั้งของสพฐ.และก.พ.พบว่า เป็นเนื้อหาเดียวกันจึงกำหนดให้เป็นแนวทางว่าให้คนที่จะมาสอบเป็นครูไปสอบ ภาค ก กับก.พ.ไว้ ส่วน ภาค ข มาตรฐานความรู้ทางวิชาชีพ ในเมื่อคุรุสภากำหนดว่าครูจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งต่อไปคนที่จะมาเป็นครูจะต้องไปสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูกับคุรุสภา

ซึ่งเมื่อพิจารณาก็เทียบเคียงกับการสอบภาค ข เช่นกัน เพราะฉะนั้นในอนาคต เมื่อสอบผ่านภาค ก กับ ก.พ.มาแล้ว และสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้แล้ว ก็เท่ากับถือตั๋ว 2 ใบ ไม่จำเป็นต้องมาสอบซ้ำใหม่อีก ส่วนผู้ใช้ก็มีหน้าที่เปิดรับโดยให้มีการมาสอบภาค ค เท่านั้น คือ สอบสัมภาษณ์และสอบสาธิตการสอนในโรงเรียนที่ประกาศรับสมัคร จะทำให้ได้ครูที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ ซึ่งวิธีการนี้ถ้าทำสำเร็จได้จะดีมาก แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการวางระบบก็อาจจะขลุกขลักบ้าง

ขอบคุณที่มาและอ่านต่อ : เว็บไซต์ focusnews เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่