สรุปงานแถลงข่าวเปิดตัว ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูฯ HRMS และระบบประเมินวิทยฐานะ รูปแบบดิจิทัล DPA โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. และ กระทรวงศึกษาธิการ

สรุปงานแถลงข่าวเปิดตัว ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูฯ HRMS และระบบประเมินวิทยฐานะ รูปแบบดิจิทัล DPA โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. และ กระทรวงศึกษาธิการ

สรุปงานแถลงข่าวเปิดตัว ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูฯ HRMS และระบบประเมินวิทยฐานะ รูปแบบดิจิทัล DPA โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. และ กระทรวงศึกษาธิการ 3

วันที่ 30 มีนาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวระบบระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management System)  หรือระบบ HRMS พร้อมด้วยระบบการประเมินวิทยฐานะใหม่ (Digital Performance Appraisal) หรือระบบ DPA ซึ่งถือเป็นนโยบายการพัฒนาระบบราชการและการบริหารภาครัฐยุคดิจิทัล และเป็นหนึ่งในวาระเร่งด่วน (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ดร.วีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. ผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้เข้าร่วมงานดังกล่าว

นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายให้ส่วนราชการบูรณาการฐานข้อมูลกลาง Big data ด้านการศึกษาให้สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลกันได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งตนเห็นว่า สำนักงาน ก.ค.ศ. ในฐานะที่เป็นองค์กรกลางในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงได้มอบหมายให้มีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารงานบุคคลฯ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะใหม่โดยใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในกระบวนการประเมิน เพื่อแก้ปัญหาระบบการประเมินแบบเดิม ลดภาระเกี่ยวกับงานเอกสารการประเมิน รวมถึงกระชับเวลาในการประเมินเพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้สื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับครูมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดทำระบบ HRMS และระบบ DPA ไม่เพียงเป็นการจัดทำฐานข้อมูลครูทั่วประเทศเท่านั้น แต่ยังนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการพัฒนาครูมืออาชีพอีกด้วย

“ดิฉันเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จะช่วยให้ครูลดภาระ ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย และสามารถใช้เวลาทุ่มเทให้กับการพัฒนาการเรียนการสอน รวมถึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งเกิดจากการสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างทักษะกระบวนการคิดขั้นสูงให้กับนักเรียน เพื่อพัฒนาสมรรถนะและความสามารถสำหรับเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ระบบดิจิทัลยังช่วยสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการประเมินวิทยฐานะ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อครูและการศึกษาของไทยทั้งระบบ โดยการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการและจะช่วยให้ครู รวมถึงระบบการศึกษาไทยในภาพรวมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น” รมว.ศธ.กล่าว   

สรุปงานแถลงข่าวเปิดตัว ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูฯ HRMS และระบบประเมินวิทยฐานะ รูปแบบดิจิทัล DPA โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. และ กระทรวงศึกษาธิการ

ด้าน รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวเสริมว่า “ระบบ HRMS และระบบ DPA นั้น ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา  สำนักงาน ก.ค.ศ. พยายามทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ของครูซึ่งเป็นข้าราชการกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้รับการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ สามารถเชื่อมโยงและดึงข้อมูลไปใช้ทั้งในเรื่องของการพัฒนาครู การประเมินตำแหน่ง การประเมินเงินเดือน ฯลฯ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการอาจสามารถนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์และวางแผนในการผลิตและพัฒนาครูได้ในอนาคต ตอนนี้ ก.ค.ศ. ก็เตรียมพร้อมสำหรับครูที่กำลังจะบรรจุเข้ามาในระบบ

โดยเราจะเริ่มใช้ระบบ HRMS นี้เข้ามาบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนประวัติต่าง ๆ ทำให้ครูทุกคนสามารถดูทะเบียนประวัติได้ตลอดเวลา ซึ่งระบบ HRMS ก็จะเชื่อมโยงไปถึงระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัลโดยอัตโนมัติด้วย ทุกอย่างจะถูกอัพเดทอยู่ในระบบนี้ ทำให้ครูไม่ต้องใช้เวลานอกห้องเรียนไปทำเรื่องเกี่ยวกับทะเบียนประวัติอีกต่อไป และจะทำให้ครูมีเวลาอยู่ในห้องเรียนมากกว่าเดิม ผู้บริหารเองก็สามารถดูรายงานข้อมูลภาพรวมเพื่อนำไปใช้กับการบริหารงานบุคคลเพื่อการจัดการและพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อีกด้วย”

ส่วนระบบ DPA จะเข้ามาช่วยให้ครูสามารถยื่นขอวิทยฐานะได้สะดวกรวดเร็วขึ้น สอดรับกับเกณฑ์การประเมินรูปแบบใหม่ ที่จะเน้นไปที่ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน แตกต่างจากเดิมที่เน้นการวัดผลลัพธ์จากผลงานวิชาการ ซึ่งวิดีโอการสอนสำหรับการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ จะส่งผ่านระบบ DPA และคณะกรรมการจะประเมินผ่านระบบนี้เช่นกัน ไม่ต้องทำแฟ้มเอกสารประเมินและเตรียมตัวนำเสนอ ซึ่งจะช่วยลดภาระของครู ลดระยะเวลาและลดภาระของบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. ก็ได้เตรียมแผนการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานระบบดังกล่าว ทั้ง 2 ระบบ ให้แก่ครูทั้งในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่และโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศได้เข้าใจและสามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าว

รับชมย้อนหลังคลิกที่นี่

ที่มา : https://otepc.go.th/th/content_page/item/3778-4-0.html

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่