แนะนำ5 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี สำหรับครู เครื่องมือที่ Content Creator ทุกคนขาดไม่ได้
วันนี้ ครูอาชีพดอทคอม ขอแนะนำโปรแกรมที่ใช้สำหรับตัดต่อวิดีโอ สำหรับใช้ในการสร้างสื่อการสอน ประเภทวิดีโอ แน่นอนว่ามันคือ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ที่ผู้ใช้หลายคนก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับการหาซอฟต์แวร์ฟรี แต่ดันมีการปิดลายน้ำกั้นไว้เพื่อบังคับให้ซื้อรุ่นฉบับเต็มเหมือนเดิม
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอครอบคลุมทุกความต้องการขั้นพื้นฐานและไม่มีลายน้ำ เช่นเคย โดยซอฟต์แวร์ทั้งหมดมีคุณสมบัติ ดังนี้
– ใช้งานฟรี
– ไม่มีลายน้ำ สำหรับเวอร์ชันฟรี
– มีอุปกรณ์ตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น เช่น Trim, Rotate
– สามารถใส่ Layer และใส่เสียงได้
– ทุกซอฟต์แวร์รองรับระบบปฏิบัติการ Windows
1. Lightworks
หากพูดถึงโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฉบับใช้งานฟรี ผู้ใช้หลายคนจะพูดถึงซอฟต์แวร์ Lightworks เป็นอันดับแรก เพราะเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่เปิดบริการตั้งแต่ปี 1989 จนถึงปัจจุบัน
Lightworks เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เหล่านักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพแนะนำ เพราะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครอบคลุมทุกความต้องการ แต่โปรแกรมไม่ใช้งานยากจนเกินไปด้วยการออกแบบหน้าต่างการใช้งานที่ผ่านการออกแบบเป็นอย่างดี
ถึงแม้โปรแกรม Lightworks จะมีเวอร์ชันอัปเกรดชื่อว่า Lightworks Pro ซึ่งผู้ใช้ต้องจ่ายเงินซื้อโปรแกรม โดยเวอร์ชั่น Pro จะปลดอุปกรณ์ให้สามารถ export ไฟล์ตัววิดีโออื่นนอกเหนือจาก MP4 (MPEG) กับสามารถเรนเดอร์ภาพขนาด 4K และรองรับภาพแบบ 3D แต่โปรแกรมเวอร์ชันปกติก็มีคุณสมบัติพร้อมกับความต้องการของเหล่า Creator Content อย่างแน่นอน
ดาวน์โหลด Lightworks : https://www.lwks.com/index.php?option=com_lwks&view=download&Itemid=206
2. Shotcut
หากผู้ใช้เน้นความหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอชนิดไหน เขาสามารถเปิดได้ทั้งหมด โปรแกรมนั้นมีชื่อว่า Shotcut ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอที่ครอบคลุมทุกนามสกุลไฟล์
Shotcut เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากสำหรับหมู่ผู้ใช้งานมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนตัวเองไปสู่นักตัดต่อระดับมืออาชีพ เพราะลักษณะการใช้งานของโปรแกรม Shotcut ค่อนข้างแตกต่างจากซอฟต์แวร์ตัวอื่น เนื่องจากคุณสมบัติเป็นของโปรแกรมเป็น Open Source และดั้งเดิม ซอฟต์แวร์นี้ออกแบบเพื่อใช้งานสำหรับระบบปฏิบัติการ Linux เท่านั้น
แต่การใช้งานที่ยุ่งยากและต้องใช้เวลาทำความเคยชินกับตัวโปรแกรม ก็แลกมากับการสร้างผลงานวิดีโอโดยไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะพบข้อความ Error ประเภทไฟล์วิดีโอไม่สามารถอ่านได้เช่นกัน และหากอ้างอิงจากเว็บบอร์ด กล่าวว่าถ้าหากใช้งาน Shotcut จนคล่องแคล่วจะปรากฏว่าเป็นโปรแกรมหนึ่งที่มีความอเนกประสงค์และรวดเร็วอีกโปรแกรมหนึ่งเลยทีเดียว
ดาวน์โหลด Shortcut : https://shotcut.org/download/
3. DaVinci Resolve
หากกำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพและมีคุณภาพเกือบเท่ากับภาพยนตร์ละก็ DaVinci Resolve จะจัดให้คุณเอง
DaVinci Resolve เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอเวอร์ชันฟรีที่มีคุณสมบัติโดดเด่นไม่กี่ตัวที่สามารถปรับแต่งสี Color Collections, ควบคุมคุณภาพเสียง และสามารถเชื่อมต่อผ่านกล้องถ่ายวิดีโอที่สนับสนุนหน้าจอ HRD ก็ต้องบอกเลยว่าสมกับเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่กลุ่มนักศึกษาภาพยนตร์นำมาใช้งาน เพราะผลลัพธ์ออกมาทำให้วิดีโอมีคุณภาพสูงมาก
อย่างไรก็ตาม DaVinci Resolve ยังคงมีอุปกรณ์บางชิ้นถูกล็อกสำหรับผู้ใช้ระดับ Premium อย่างเช่นการ export รายละเอียดของวิดีโอในความละเอียดระดับ 4K แต่สำหรับมุมมองของเหล่า Content Creator แล้ว 4K ไม่ค่อยมีความจำเป็นซะเท่าไหร่นัก เพราะอาจทำให้เสียเวลาจากการอัปโหลดหรือทำงานที่ใช้เวลานานเกินไป แต่ถือเป็นทางเลือกเสริมอีกอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการตัดต่อภาพยนตร์
ดาวน์โหลด DaVinci Resolve : https://www.blackmagicdesign.com/products/davinciresolve/
4. Openshot
สำหรับนักตัดต่อวิดีโอมือใหม่หรือผู้ใช้งานทั่วไป โปรแกรม Openshot สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้กลุ่มนั้น เพราะมีคุณสมบัติใช้งานง่ายที่สุดในบรรดาซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่นำเสนอมาทั้งหมด
นอกจาก Openshot จะมีดีไซน์สวยงามแล้ว แต่ตัวโปรแกรมกลับใช้งานง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ เพียงแค่ลากเมาส์และกด พร้อมมีปุ่ม Shortcut ที่เข้าใจง่าย ซอฟต์แวร์นี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหัดตัดต่อวิดีโอขนาดเล็ก และเป็นที่นิยมสำหรับคนทำภาพยนตร์สั้น (อ้างอิงจากเว็บไซต์)
ดาวน์โหลด Openshot : https://www.openshot.org/
5. VSDC free video editor
จัดว่าเป็นซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอยอดนิยมและเป็นที่ไว้ใจที่สุดสำหรับเหล่า Content Creator เพราะใช้งานง่าย และ (เกือบจบ) ภายในตัวเดียว
VSDC free video editor เป็นโปรแกรมฟรีที่สามารถใช้งานทุกอย่างเกือบจบภายในตัวเดียว เพราะลักษณะการใช้งานมีความอเนกประสงค์และเป็นมิตรกับนักตัดต่อทุกระดับฝีมือ ด้วยการออกแบบดีไซน์ของโปรแกรมที่ออกแบบใช้งานง่าย แต่มีอุปกรณ์เลือกใช้หลากหลาย ตั้งแต่การใส่เอฟเฟกต์, รองรับวิดีโอระดับ 120 fps, ใส่เลเยอร์หรือไทม์ไลน์ได้หลายขั้น และสามารถอัปโหลดผ่าน Youtube ได้ทันที
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด แม้โปรแกรมนี้มีอุปกรณ์เลือกใช้เยอะ แต่ขั้นตอนการใช้งานกลับมีความอิสระ ปัญหาโปรแกรมตัดต่อเรื่องมาก และชอบ Error บ่อยครั้งจะลดลงอย่างทันตาเห็นเมื่อใช้โปรแกรมนี้
ข้อเสียร้ายแรงมีเพียงอย่างเดียว คือ ไม่รองรับสำหรับระบบปฏิบัติการ MacOS ฉะนั้นใครเป็นผู้ใช้ Windows ที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ VSDC free video editor เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
ดาวน์โหลด VSDC free video editor : http://www.videosoftdev.com/free-video-editor
ขอบคุณที่มา : แฟนเพจ GamingDose
ดีมากครับ ขอแชร์ครับ
[…] […]